[What To Love] Music For The Soul | ดนตรี สร้าง สุข

00:10 Unknown 0 Comments

เมื่อตอนสงกรานต์ไปสหราชอาณาจักรมา...พูดซะเต็มยศ ง่ายๆก็คือ UK นั่นแหละ

มีอย่างนึงที่ได้ไปสัมผัสแล้วทำให้ชอบมากๆ สิ่งที่เราชอบมากๆนี้ไม่ใช่ผู้คนที่อัธยาศัยดี ไม่ใช่เมืองที่จัดเป็นระเบียบ ไม่ใช่ตึกที่ออกแบบมาสไตล์ยุโรปเก่าสวยงามตามทาง ไม่ใช่ความสะดวกสบายของรถไฟฟ้าใต้ดินที่มีสถานีเยอะแยะเต็มไปหมด ทุกอย่างที่พูดมาเราก็ชอบหมดนะแต่ความชอบของเราครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะหลายๆอย่างรวมกันมากกว่าและเกิดขึ้นที่ “สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน” หรือ คนส่วนใหญ่จะเรียกกันแบบอัพคลาสหน่อยก็ London Underground / Tube

London Underground หรือ Tube เป็นหนึ่งในการเดินทางที่คนในลอนดอนใช่กันในชีวิตประจำวัน ทุกวันคงมีใช้ทู้ปนี่ไม่น้อยกว่าพันคน ยิ่งช่วย Peak Timeของเขาอย่างช่วงก่อน9.30น.แล้วด้วย อย่าหวังว่าจะได้ยืนสบายๆในรถไฟที่เล็กมากอยู่แล้วของที่นี่เลย

ตอนอยู่ที่ลอนดอน 5 วันเราก็เดินทางไปที่โน่นที่นี่โดยใช้เจ้าทู้ปเนี่ยแหละไปไหนมาไหนสะดวกดีแท้ ไม่งั้นคงไปไหนกันลำบากแย่ พอใช่ทุกวันก็เดินผ่านทุกวัน ก็มองไปรอบๆตลอดเวลาที่เดินไปชานชาลา ขึ้นลงโน่นนี่เปลี่ยนสายรถไฟกันสนุกสนาน(แต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ค่อยสนุกด้วยนะ เดินเยอะไป) และสิ่งนึงที่เราเห็นทุกวันของการลงใต้ดินนี้คือ Buskers หรือ พวกนักดนตรีที่เล่นตามสถานีต่างๆทั่วลอนดอน  

Buskers at London Underground station

ครั้งแรกที่เห็นคือสนใจมากได้ยินพวกเสียงดนตรีนี่มาแต่ไกลเลยนะเป็นเพราะอยู่สถานีใต้ดินด้วย เวลาเล่นอะไรก็จะเสียงสะท้อนกันหมด นักดนตรีที่เราเห็นส่วนมากจะเล่นกีต้าบ้าง คีย์บอร์ดบ้าง ไม่ค่อยมีใครมายืนร้องอย่างเดียว ส่วนมากจะมีเครื่องดนตรีติดตัวกันมาแล้วก็ร้องเพลงไปด้วย แต่พวกที่เล่นดนตรีอย่างเดียวก็เยอะอยู่ และฝีมือทุกคนไม่ใช่เด็กๆนะถือว่าเป็นนักดนตรีมืออาชีพกันเลย เอนเตอเทนคนเก่งมาก ผู้คนส่วนใหญ่ก็เดินผ่านไปแบบไม่ได้หันมามองสนใจอะไร แต่ก็มีหลายคนที่หันมามอง มายิ้มให้นักดนตรี หรือบ้างก็ให้สินน้ำใจเล็กๆน้อยๆเป็นกำลังใจให้คนที่มีความสามารถพวกนี้ เราก็เป็นหนึ่งในนั่นที่สนใจและชื่นชมมากๆ

Buskers ถือเป็นหนึ่งในสีสันของรถไฟใต้ดินที่ลอนดอนที่เป็นเอกลักษณ์ของที่นี่แถมสร้างความบันเทิงให้กับการเดินทางไปทำงานที่เคร่งเครียดหรือไปไหนมาไหนให้กับคนทุกคนอีกต่างหาก คนที่มาเล่นมีทั้งผู้หญิงผู้ชาย คนหนุ่มสาวบ้าง คนมีอายุบ้าง มาคนเดียวหรือมาเป็นคู่เป็นกลุ่มก็มีเยอะแยะ แต่ทุกคนก็มาเพราะมีความฝันกันทั้งนั้น สิ่งที่เขาได้รับไม่ใช่แค่เงินที่ได้จากคนดู(จริงๆก็ได้ด้วยนะ แล้วรู้สึกเงินดีมากๆ)แต่เป็นประสบการณ์ที่ได้เล่นต่อหน้าคนเยอะๆ สร้างความบันเทิง สร้างสีสัน และไม่ได้แบ่งแยกว่าเพื่อใครหรือเพื่ออะไร

มีคืนนึงกำลังจะเดินจากชานชาลา มุมตรงหน้าทางขึ้นบันไดเลื่อนก็มีคุณลุงคนนึงกำลังเล่นคีย์บอร์ดอยู่ เราก็หันไปมองเหมือนทุกครั้งแต่ก็ไม่ได้ให้เงินเพราะตอนนั้นไม่มีเหรียญเลย และสังเกตเห็นผู้ชายคนนึงโยนเหรียญใส่ที่ใส่เหรียญของนักดนตรีแล้วพูดกับเขาว่า  “Nice job!” ...บุคคลคนนั้นหล่อขึ้นมาทันทีเลยค่ะ หล่อในที่นี้ไม่ใช่เพราะหน้าตา แต่เพราะใจพี่หล่อมาก(Clicheมากที่พูดงี้แต่มันเป็นเรื่องจริง) ตอนที่เราเห็นนี่คือปลื้มมาก ชอบมาก และเห็นว่าน่ารักมาก ส่วนหน้าของนักดนตรีคนนั้นก็ยิ้มไม่หุบ

บางทีแค่คำพูดเล็กๆน้อยๆและการinteractของเรากับคนอื่นนิดหน่อยก็ทำให้โลกนี้มีความสุขและน่าอยู่ขึ้นเยอะเลยนะเราว่า เหมือนกันกับสองคนที่เราพูดถึง เขาเป็นแค่คนแปลกหน้ากัน ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่เขาก็ไม่ใช่แค่หันมองกันและไม่สนใจกัน แต่เขาเลือกทำให้ช่องว่างของคนแปลกหน้านั้นเป็นช่วงเวลาที่ดีของกันและกันได้ 

0 ความคิดเห็น: