[MyMeMind] Run For Flight | วิ่งขึ้นเครื่อง ระทึกสุด ส่งท้ายปี2015

08:40 Unknown 1 Comments

こんばんは ~

เพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพสดๆร้อนๆ(ไม่ร้อนมากคือตั้งแต่บ่ายสาม) หลังจากไปอยู่ประเทศเกาะมาเป็นเวลา...10วัน 
เป็นทริปที่ยาวนานมาก คือจริงๆมันก็ไม่ได้นานขนาดนั้นนะ แต่รู้สึกเหมือนนานมาเพราะเดินทางระหว่างเมืองเยอะ นั่งรถไฟเยอะ เหนื่อย รอบหน้าลดวันไม่เกิน7วันละไม่ไหวจริงๆ

แต่เห้ยที่มาโพสบล็อกวันนี้ไม่ใช่ไร ไม่ได้มาเล่าว่าไปไหนมาบ้างแต่มาเล่าเรื่องระทึกใจที่สุดในรอบปี2015ของเรา...และของครอบครัวเรา(เค้าก็คงจะระทึกเหมือนกันแหละ)

คือวันนี้เป็นวันที่เราบินกลับ เครื่องบินที่ซื้อตั๋วกลับไว้คือ 11โมงตรงจากสนามบินคันไซมายังบังค๊อกคุ(ออกเสียงตามคนบนเกาะ) วันก่อนหน้าก็ไม่มีไร ก็ไปซื้อตั๋วรถไฟด่วนสายตรงไปสนามบินปกติ ก็ซื้อรถไฟเที่ยว 7.47น. คือกะไปถึงก่อนเพราะนั่งไปชั่วโมงนึงถึงแล้วจะได้มีเวลาซื้อขนมที่สนามบินตามสไตล์คนไทยที่ไปขนขนมที่สนามบินหมดชั้นตลอดตลอด 

แต่!!! 
เหตุการณ์ดันไม่เป็นไปตามที่กะไว้อ่ะดิ 
วันนี้ก็ตื่นกันเช้ามาก อาบน้ำแต่งตัวเก็บของเรียบร้อยเดินมาที่สถานีรถไฟตั้งแต่เจ็ดโมง คือมาก่อนรถไฟด่วนที่จะไปสนามบินเที่ยวแรกด้วยซ้ำแต่เราก็ซื้้อเที่ยว7.47ไว้ก็ต้องรอกันไป พอจะถึงเวลาก่อนซัก10นาทีก็เคลื่อนตัวเคลื่อนกระเป๋าลงไปรอที่ชานชาลา หันไปที่ป้ายที่จะบอกว่ารถไฟขบวนไหนจะเทียบท่าบ้างแล้วงี้ ก็เห็นขึ้นว่ารถไฟจะมาช้ากว่าเวลา15นาที ก็เอ๊ะ...ทำไมวะ ปกติอีรถไฟประเทศนี้มันไม่เคยดีเลย์นะ สถิติคือทั้งปีเฉลี่ยการมาไม่ตรงเวลาของรถไฟนี่ไม่ถึง10นาทีของทั้งประเทศอ่ะ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากก็นั่งรอต่อแถวต่อไปเพราะอีกแปปรถไฟก็คงจะมาแล้ว...แต่มันไม่เป็นแบบนั้นค่ะ เพราะจาก15นาที มันเริ่มขยับเป็น 20นาที 25นาที 30นาที และ 40นาที พอถึงจุดนี้คนรอบข้างเริ่มมีอาการกระวนกระวายเริ่มขยับตัวเดินไปหานายสถานีเพื่อจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น รถไฟจะมาไหม จะมาหรือยัง จะมากี่โมง บลาบลา ตอนคนอื่นเค้าเริ่มตระหนักถึงเหตุการณ์สุดวิสัยเราก็ยังไม่รู้สึกถึงเหตุการณ์ใดใดเท่าไหร่นัก จนกระทั่งต่างชาติที่ต่อแถวอยู่ข้างๆเริ่มโวยวายกันเองและลากกระเป๋าจะย้ายถิ่นขึ้นลิฟท์ไปที่อื่น พอถึงจุดนี้อีนี่เริ่มงงค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนจะไปไหนวะ เห้ย...ไม่ได้ละต้องถามละ เลยหันไปถามผู้ชายข้างๆว่าพวกยูจะไปไหนกันอ่ะ เกิดอะไรขึ้นหรอ สรุปนี่จะรถไฟจะไม่มาหรอ เค้าก็บอกว่าเมื่อกี้นายสถานีบอกว่ารถไฟจะมาช้ากว่าเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เค้าจะไปสนามบินเส้นทางอื่นแล้วไม่งั้นเดี๋ยวไม่ทันเครื่องบิน เมื่อได้ยินเช่นนั้นนี่ก็รีบวิ่งไปหานายสถานีและถามเองว่าเกิดอะไรขึ้น ตกลงรถไฟจะมากี่โมง แล้วก็ได้คำตอบแบบเดียวกันคือ รถไฟอาจจะมาช้ากว่าเวลา1 ชั่วโมง อาจจะนี่คือไม่รู้ว่าจะหนึ่งชั่วโมงไหม(ถ้าหนึ่งชั่วโมงก็คือมันจะตามตอน9โมง)หรืออาจจะช้ากว่านั้น 




พอได้ยินเยี่ยงนั้นจากนายสถานี ก็ได้เวลาที่เรารู้สึกตัวซักทีว่าต้องหาทางอะไรซักอย่างหรือไปเส้นทางอื่นนะเว้ย!ไม่งั้นตกเครื่องแน่ๆ (ณ ตอนนั้นคือเวลา 8.19น.) ก็กดหาในเว็บว่ารถไฟขบวนไหนจะมาแล้วจะได้ไปลงที่ Osaka Sta. หรือ Tennoji Sta. แล้วต่อรถไฟจากตรงนั้นไปแทน ก็มขบวนนึงจะไปTennoji Sta. พอดี ก็วิ่งสิคะ ตากชานชาลา11วิ่งไป17 พอลงไปตรง17 สรุปอีรถไฟของทางนี้ก็มาจากที่เดียวกันกับอีรถไฟด่วน...ง่ายๆคือมันก็ดีเลย์เหมือนกัน -_- สวรรค์เบี่ยงมากมาก เลยเอาวะไปรถไฟใต้ดินแทนก็ได้วะเลยจะไปrefundตั๋วที่ซื้อมาแต่พอยื่นจะrefund พนักงานที่ทางออกก็บอกว่าให้กลับไปที่รถไฟที่ซื้อไว้(อีขบวนที่ดีเลย์40นาทีนั่นแหละ) นางบอกมันจะมาแล้ว จะมาแน่ๆ นี่ถามเป็นภาษาอังกฤษหมดนะ พนักงานก็...ไม่รู้ฟังออกมากน้อยแค่ไหน นางก็บอกแค่ว่ารถไฟขบวนที่ยูจะไปอ่ะมันเป็นรถไฟด่วน เร็วสุดแล้วๆ ให้ไปรอๆ รถไฟจะมาแล้วนะจริงๆ (ง่ายๆคือจริงๆแล้วคุยไม่รู้เรื่อง บอกนางว่านี่ถ้ารถไฟที่บอกจะมาแล้วๆไม่มานี่เราจะตกเครื่องบินแน่ๆละนะ นางก็ยืนยันกันหมดทั้งสามสี่คนว่า มาแน่ๆ) ในเมื่อพนักงาน(ที่พูดไม่รู้เรื่องเท่าไหร่นัก)ยืนยันว่ารถไฟจะมาจะมา เราและครอบครัวเลยตัดสินใจวัดดวงกับพวกนางและกลับไปที่ชานชาลา11อีกครั้ง 

(คือระหว่างที่คุยกับพนักงานอยู่ มีพี่คนไทยสองคนที่จะไปรถไฟขบวนเดียวกันตัดสินใจวิ่งออกไปแล้วไปรถไฟใต้ดินแทนเพราะพนักงานอีกคนที่คุยกับพี่เค้าบอกว่าให้ไปใต้ดินๆๆๆ...สรุปพนักงานรถไฟที่นี่มันจะเอายังไง อีกพวกบอกให้กลับไปรอรถไฟ อีกพวกบอกให้ไปทางอื่น) 

พอกลับไปถึงชานชาลา จากเวลา40นาที ตอนนี้เป็นเปลี่ยนเป็น 55นาที เรากับน้องสาวก็...เอาวะ ช่างมัน รถไฟมันมาแน่ๆแหละ เพราะตอนแรกมันเอาออกไปเลยประหนึ่งว่ามันจะไม่มาแล้วแต่ตอนนี้มันเอากลับมาขึ้นแล้วแปลว่ามันต้องมาแน่ๆ 

พอยืนรอไปอีกมันก็ขึ้นเป็น 60 นาที

จาก 60 นาทีก็เป็น 65 นาที

จาก 65 นาทีก็เป็น 70 นาที

และพอ 70 นาทีนี่แหละที่บนบอร์ดขึ้นว่ารถไฟกำลังจะเทียบชานชาลาแล้ว (ณ เวลา 9.00น. คือนายสถานีที่ไปถามตอนแรกนี่แม่นมาก มันมา9โมงจริงๆด้วย) 


สรุปรถไฟมาแล้ว ! ! ! Haruka No.7 ! ! !
ตอนแรกก็คิดว่าโอเครถไฟมาแล้ว วางใจได้แล้วแต่พอนึกไปนึกว่า...เห้ยแม่งนั่งอีกหนึ่งชั่วโมงถึงจะถึงสนามบินนี่หว่า แล้วไฟลท์เราคือ 11.00น. นะเว้ย แล้วเค้าให้check-inก่อนเวลาช้าสุดคือ1ชั่วโมง หรือ 45นาทีนะเว้ย ง่ายๆคือถึงชานชาลาปุ๊ปต้องวิ่งไปที่counter check-inปุ๊ป

ระหว่างนั่งไปก็เช็คมือถือไปว่าถึงไหนแล้ว ระทึกชีวิต ระทึกหัวใจชิบหายว่าจะทันไหม 
พอถึงก็รีบบอกพ่อกับแม่ให้วิ่งขึ้นไปที่counter check-inก่อนเพราะเรากับน้องต้องวิ่งไปเอากระเป๋าสามใบที่ส่งมาสนามบินก่อนหน้านี้ ความระทึกยังไม่จบเพียงเท่าที่ถึงสนามบินแล้ว...เพราะดันวิ่งไปที่รับกระเป๋าผิดฟาก ก็ต้องวิ่ง4x100ไปอีกฟากของสนามบินเพื่อไปเอากระเป๋าแทน เหนื่อยแทบขาดใจขาแข็งมาก แล้วคือเหนื่อยแบบหอบอ่ะ ล่กสุดๆ

check-inทัน (THANKS GOD!) แต่เค้าก็บอกว่าให้รีบผ่านตม.แล้วรีบตรงไปที่เกทเลยนะ (ย้ำมากประหนึ่งว่าหน้าอีนี่บ่งบอกมากว่าจะซื้อของแน่) เราก็เป็นคนดีทำตามที่พนักงานบอก...คือถ้าไม่ทำมึงไม่ได้บินแน่ๆจริงๆเพราะcheck-inเสร็จ10.10น. กว่าจะx-rayกว่าจะต่อแถวอีก หัวใจพี่เต้นแรงมากจริงๆจากความระทึก ระทึกหลายชั้นด้วยนะไม่ใช่แค่ชั้นเดียว เพราะพอผ่านตม.ไปแล้วรีบเดินไปที่เกท...คือเกทต้องนั่งmonorailของสนามบินไปอีก แล้ววิ่งไม่ทันขบวนก่อนหน้า...คือประตูปิดต่อหน้าต่อตา! กลัวไม่ทันมาก พออีกขบวนมาก็รีบขึ้นรีบลง พอลงแล้ววิ่งไปที่เกท...ยังมีคนต่อแถวรอขึ้นเครื่องอยู่ รอด! 


A video posted by Lin Sinanun (@kiplinkip) on
ขอสรุปสาเหตุและเหตุการณ์ของรถไฟ ณ ประเทศเกาะทางภาคคันไซที่เกือบทำครอบครัวเราตกเครื่องบิน...ตามข่าว(ที่น้องไปเปิดหามาและตามที่น้องกดดิกเชนนารีจากที่เค้าบอกบนบอร์ดที่สนามบิน)เค้าบอกว่า มีอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับคน ไม่รู้ว่าคือแบบคนพลัดตก หรือ คนกระโดดฆ่าตัวตาย หรือ อะไรมีปัญหา แต่มันบอกว่าเกี่ยวกับคนอ่ะ (ช่วงเวลาrush hourด้วยไง) เหตุเกิดที่Ibaraki เมืองทางตอนเหนือของโอซาก้าทางฟากรถไฟสายที่จะมาจากเกียวโต (แล้วรถไฟที่อีนี่จะไปมาจากทางเกียวโตพอดิบพอดี) เหตุเกิด ณ เวลา 7.34น. หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อยโดยประมาณ สรุปคือมันลากยาวจนมาถึงShin-Osakaแล้วมันก็เลทไปหมด 

อันนี้เว็บที่มีคนโพสเกี่ยวกับเหตุการณ์ http://matome.naver.jp/odai/2145091063492837301

นั่นแหละค่ะ คือเหตุการณ์นี่ลุ้นระทึกหัวใจและชีวิตที่สุดในรอบปีนี้ของเรา 
เป็นการฉลองครบรอบการไปประเทศเกาะครบครั้งที่10พอดี ดีงามเหลือเกิน 

ไว้เจอะเจอกันใหม่เจแปน วันหลังไม่เล่นแบบนี้นะคะลูกพี่หัวใจจะวายค่ะ
Merry Christmas Everyone :)

- THANK YOU -

1 ความคิดเห็น:

[Photo Blog] S.E.O.U.L. | ณ โซล หนึ่งม้วน หนึ่งอาทิตย์

06:24 Unknown 0 Comments

เริ่มต้นเดือนแห่งเทศกาลด้วย บล็อกไปเที่ยว!!!
พอดีว่าเมื่อเดือนตุลาไปเกาหลีมาลงซะหน่อย
เป็นทริปที่คิดน้อยที่สุด ซึ่งปกติจริงๆเวลาไปเกาหลีเนี่ยก็คิดน้อยอยู่แล้ว เพราะไปบ่อยแล้วอยู่แค่ในโซล อยากไปไหนก็ไป เดินไปไหนก็เดิน กินไหนก็กิน (แต่ตอนนั้นก็ไปแต่ที่เดิมๆ) แต่ทริปนี้มันแอบน้อยกว่าปกติไปหน่อยเพราะจองตั๋วก่อนไปแค่สามอาทิตย์ แถมอยู่ๆก็ไปแบบงงๆ(แต่ก็ไม่งงขนาดนั้น) ทริปนี้เป็นการไปเกาหลีหลังจากที่ไม่ได้ไปมาสามปี คิดถึงเกาหลีไหม...ไม่ขนาดนั้นนะ คิดถึงเพื่อนมากกว่าเพราะเหตุผลหลักของการไปคือไปหาเพื่อน คนละเหตุผลกับช่วงที่ไปบ่อยๆ...ตอนนั้นคือไปบ้าดารานักร้อง 

รอบนี้ก็พกกล้องฟิล์มไปด้วย
ถึงentryจะชื่อว่าหนึ่งม้วนแต่รูปที่ลงนี่ครึ่งม้วนเอง(ฮาาาา)
หวังตลอดว่ารูปคงออกมาดีไม่แรงรั่วเพราะก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องนี้อยู่...แต่แสงก็รั่วเข้าอยู่ดี 
เสียดายนิดหน่อย แต่ก็สวยดี :)

เริ่มเลยดีกว่า

ไปช่วงที่ดอกหญ้าที่สวนฮานึลกำลังฟริ้งๆพอดี(คำอะไรวะฟริ้งๆ)
แต่วันที่ไปคือหลังวันที่เค้าจัดไฟที่สวนหนึ่งวัน...


อันนี้คือไปนั่งกินไอติมขนมชาเขียวที่O'sullocแถวอินซาดง 
สามารถเห็นการละลายของไอศครีมได้ถ่ายรูปจนไอติมละลายอ่ะคิดดิ
แล้วคือมันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...แบบมากมาก

ไม่ได้ถ่ายทุกวันเพราะเอากล้องดิจิตอลไปด้วยเลยขี้เกียจหิ้วกล้องแถมบางรูปแสงรั่วจนไม่กล้าเอามาลง นานๆทีจะได้ถ่ายและล้างฟิล์มมาลง :) 

Camera: Canon AE-1
Film: Kodak Gold 200
Developer: AIRLAB
Location: Seoul, South Korea
Date: 20-24.10.2015

ps. เดี๋ยวจะลงรูปจากอีกกล้องแบบเต็มๆพร้อมคำประกอบ(ที่คงไม่อยากอ่านเยอะเท่าไหร่แต่ก็จะลง :D)

-THANK YOU-

0 ความคิดเห็น:

[MyMeMind] KAT-TUN + HYPHEN | หกห้าสี่สาม ไฮเฟ่น

09:34 Unknown 0 Comments

[FANGIRL ALERT] ขออนุญาตบอกตรงนี้ว่าบล็อกนี้เป็นเรื่องราวความในใจของติ่งคนนึงที่มีความคิดที่หยุดไม่ได้จนต้องหาที่ระบาย

เราเป็นไฮเฟ่นค่ะ ไฮเฟ่นก็คือไอ้ตัว " - " สัญลักษณ์ในแป้นพิมพ์คีบอร์ดของเราเนี่ยแหละ
ไฮเฟ่นคือชื่อเรียกแฟนคลับของวงไอดอลญี่ปุ่นที่ชื่อว่า KAT-TUN หรือ คัตตุน แล้วไอ้ตัวไฮเฟ่นเนี่ยคือไอ้ขีดกึ่งกลางระหว่างKATและTUN เป็นตัวเชื่อมชื่อให้ต่อกัน (ประวัติเอากันแค่นี้ก่อน ถ้าไม่หยุดมันจะยาวมาก)

เนื่องด้วยเหตุการที่ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นเมื่อคืน (24.11.2015) ทำให้ช็อกไปซักพักใหญ่ๆดูอะไรก็นอยด์ไปหมด ขนาดเด็กๆ Hey! Say! Jump น่ารัก หล่อ สวย ขนาดไหนก็ทำให้ยิ้มไม่ได้เมื่อในขณะที่รถติดอยู่กลางสี่แยกอโศกและทำการติ่งไล่ตามทวิตเตอร์รายการเพลงที่ถ่ายทอดสดที่ญี่ปุ่นอยู่ไปเจอทวิตแรกที่บอกว่า...ทางุจิ จุนโนะสุเกะ จะออกจากKAT-TUNและออกจากJohnny'sในใบไม้ผลิปีหน้า
โมเม้นที่เลื่อนไปเจอทวีตนั้น...แทบจะหยุดขับรถ จากที่คุยเล่นกับเพื่อนบนรถคือเงียบ พูดอะไรไม่ออก คิดอะไรไม่ออก แล้วอยู่ๆน้ำตาก็ไหล ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายขนาดเพื่อนได้ยินแต่มันไหลออกมาเฉยๆส่วนเราก็หน้าเฉยๆและขับรถต่อไป เมื่อวานมีนัดกินข้าวเย็นกับเพื่อนพอดีเลยจบการรับรู้ไว้เท่านั้นก่อน...วางมือถือแล้วอยู่กับเพื่อน เพราะเราเชื่อว่าถ้าเราเปิดมือถือต่อไปเราจะไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว เราจะหลุดออกจากตรงนั้นไปเลย

เราไม่เปิดดูไลฟ์เลย ไม่เปิดดูอะไรเลยจนกลับมาถึงบ้าน แต่ที่แน่ๆระหว่างทางกลับบ้านเราเปิดเพลง4Uและเพลง Whenever I Kiss Youซ้ำไปซ้ำมาตลอดทาง พอกลับถึงบ้านก็นั่งไล่ตามทุกอย่างที่หยุดไว้ สรุปก็คือจุนโนะประกาศออกจากวง และ คัตตุนจะเหลือกัน3คนในใบไม้ผลิปีหน้า และอนาคตของวงก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะอยู่ต่อหรือจะยุบวงขึ้นอยู่กับการตัดสินในของสามคนที่เหลือ (ที่บอกว่าสามคนที่เหลือเพราะว่าก่อนหน้านี้คัตตุนมีคนออกจากวงไปแล้วสองคน ในระยะเวลา...สี่ปี จุนโนะคือคนที่สาม)

ที่เรามาโพสบล็อกนี้ไม่ใช่ว่าจะมาบ่นว่าไม่พอใจ ไม่โอเค หรือโกรธ หรือโทษอะไรใครในวง เรามาโพสเพราะเราคิดว่ามันเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งซึ่งจริงๆก็คงไม่มีใครคิดเหมือนกัน ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดไปตามความคิดของตัวเอง แต่สำหรับเราความรู้สึกที่เรามีคือเราสงสาร เราเป็นห่วง เราเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราไม่รู้สึกผิดหวังกับวงหรือกับสมาชิกที่เลือกที่จะออกจากวงเลย เราไม่สามารถพูดได้ว่าเราเข้าใจจุนโนะนะที่เลือกแบบนี้...แต่เราบอกได้เลยว่าเราพยายามจะเข้าใจและเคารพการตัดสินใจของจุนโนะ ในการตัดสินใจแบบนี้มันแน่นอนอยู่แล้วว่าจะมีคนไม่พอใจและรู้สึกผิดหวังหรือหนักกว่านั้นคือรู้สึกว่าโดนหักหลัง เราไปอ่านเจอทวีตนึงพูดถึงรูปรวมและเรียกว่าเป็นการเสแสร้งหรือFAKE พอเราอ่านเราร้องไห้ออกมาเลย ไม่ใช่เพราะเรารู้สึกแบบเดียวกันแต่เรารู้สึกแย่กับคำนี้มากกว่า คนที่ทวีตเค้าไม่ผิดหรอกที่จะคิดแบบนั้น แต่พอเราอ่านเจอเข้าจริงๆเราก็รับไม่ได้ เราไม่พอใจ เราไม่โอเค เพราะการที่คุณเรียกการกระทำของพวกเขา(KAT-TUN)ว่าเป็นการเสแสร้งมันเป็นการไม่เคารพทั้งคนที่ยังอยู่กับวงและคนที่เลือกที่จะเดินอีกทาง วงKAT-TUNเป็นเหมือนชีวิตของเมมเบอร์ไม่ต่างจากพวกเราที่เป็นแฟนคลับคิดหรอก การที่จุนโนะตัดสินใจแบบนี้ออกมามันคงคิดมานานมากๆคิดเยอะมากๆแล้วยิ่งเป็นจุนโนะคนที่ทำให้พวกเราเห็นตลอดว่าเขาจริงจังกับการกระทำของเขาไม่ว่าจะเป็นการเต้น การร้อง การเล่นมุขตลกที่โคตรไม่ตลก การอยู่กับเมมเบอร์ขนาดนี้ คือกล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าทั้งหมดนั่นเป็นการเสแสร้ง จุนโนะไม่ผิดนะในความคิดเรา(คนอื่นอาจจะไม่คิดแบบนี้...แต่เราบอกว่าบล็อกนี้คือความคิดเราล้วนๆ) จุนโนะไม่ผิดที่จะมีปลายทางคนละทางกับพวกเราเพราะทุกคนมีสิทธิเลือกในทางของตัวเอง เราคิดว่าสิ่งที่พวกเราทำได้คือไม่ใช่ต่อว่าการกระทำของจุนโนะที่คิดมาเยอะมากแล้วแต่เป็นการสนับสนุนและขอบคุณสิ่งที่จุนโนะทำมาทั้งหมดให้พวกเราแฟนคลับและวงนี้เกือบ10ปีของการเดบิวต์
เราอยากจะบอกกับจุนโนะว่า ขอบคุณเจ้าชายยิ้มสวยสำหรับทุกอย่างที่ผ่านมา อย่าท้อนะ อย่าโทษตัวเองนะ ยิ้มนะ เพราะเวลาจุนโนะยิ้มคือดีที่สุดแล้วจริงๆ

กลับมาหาคนอื่นในวง...เดี๋ยวจะว่าเข้าข้างแต่จุนโนะ
ตอนนี้เชื่อว่าอีกสามคนต้องกดดันสุดๆ ตอนที่จุนโนะพูดเมื่อวานอีกสามคน พี่ยู ทัตจัง และ คาเมะคือหน้าตึงมาก คาเมะพูดขอโทษแบบเดิมอีกครั้ง(จากครั้งก่อนคือตอนที่โคคิออก) ทัตจังในmessageก็ดูจะโทษตัวเองที่ไม่มีความสามารถและไม่แกร่งมากพอที่จะเปลี่ยนใจจุนโนะได้ พี่ยูที่ออกมาขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง เราไม่รู้จะพูดอะไรคือตอนอ่านmessageของทั้งสี่คน(รวมจุนโนะด้วย)เราน้ำตาไหล คือเป็นแค่แฟนคลับกระเหรี่ยงที่ห่างไกลทำอะไรไม่ได้ แต่สิ่งแรกที่คิดตอนอ่านคืออยากกอดทั้งสี่คนแน่นๆแล้วบอกว่าไม่เป็นไรนะ เราเข้าใจนะ ร้องไห้ออกมานะ เรารู้ว่ามันเหนื่อยมากนะ พยายามกันมามากจริงๆนะ เราขอบคุณมากนะ เรารู้ว่ามันลำบากมากนะแต่อย่าลืมนะว่ายังมีพวกเราไฮเฟ่นอยู่ตรงนี้ตลอดนะไม่ได้ไปไหนนะ

และในรายการสดเมื่อวานเจอรีพอร์ตบอกว่าคาเมะหันมาพูดกับแฟนคลับว่า ไม่เป็นไรนะ
คือมึง(เริ่มขึ้นมึง) พวกกูสิต้องบอกมึงว่าไม่เป็นไรนะ อย่ามาทำเป็นปลอบนะ รู้ว่าพยายามรักษาวงมาตลอด รู้ว่าเหนื่อยมากๆ โอ้ย อยากกอดแน่นๆ :( อยากบอกอุเอ้ว่าแกหยุดโทษตัวเองเราไม่ได้โทษแก เราไม่ได้โทษใครทั้งสิ้น อยากบอกพี่ยูว่ารักมากมาก

ความคิดโคตรไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง นี่พิมพ์แบบไม่สนใจโลก อยากพิมพ์อะไรก็พิมพ์ จริงๆมันคิดเยอะแยะกว่านี้มากแต่มันก็ไม่รู้ว่าจะพิมพ์อะไรออกมาอีก

-----------------------------------------------------------------

Seriously, I think I should also say something about this in English. With English I think I can say something out more, I guess. WE passed through so many things in this passing years! From Jin leaved the group and followed by Koki and now yesterday it was Junno who announced to leave. It was indeed the scariest thing that WE (Hyphen) ever wanna think of. And yet, it happened. I know it's tough for fans to support them when we got disappoint and hurt by the leaving members. However, I don't feel disappointed. What I feel is not disappointed. I might be sad and felt down for the whole day but not disappoint. I am PROUD of them, of all 4 of them. Actually not 4 of them but...6 of them! KAT-TUN has 6 members ad always be so. They all did their best to keep this group going, they shed tears (I believe) and they tried so hard. It was just that our destination are not the same anymore. I understand them (both those who stay and those who step out). Not that I understand them personally of what they think and stuff but I tried my best to understand them and not blame hem. For this kind of incident, there is no one to blame actually. No one is a bad guy and no one is to say fault words to. It was not their faults if you ask me. Everyone of us are individual, of course not everyone of us able to have the same ideas and goals.

I know lots of fans felt as if they are betrayed by those who step out but I beg you, they are not wrong to choose another path and not the same one as us, Hyphens. When they were still all KAT-TUN, you gave all your love and support but once they were not the members anymore, you can actually just ditch them and hate them? Really? You can really do that? I honestly can say that I can not. I love them the ways they were and the way they are now. I love seeing those former members Jin and Koki to get to do what they want and move on to find ways to success their goals. I hope Junno is able to do the same thing too. I don't blame him for leaving us, but I thank him for letting us know him and receiving his love for the passing years. Many still hope that in this last 4 months Junno might change his mind. I hope so too. However, I do respect his decision. I felt thankful for everything he did for us as member of KAT-TUN. He, the one who always did his best, the one who always dance his hardest, and the one who always tried so hard to make others smile, is always my favorite smiley prince. If I could hug him right now I'll do! A big hug to you Junno! 

As for the three strongest members of ours, I know it was so hard for them to see their friends one by one to step out of what they tried so hard to keep together. I felt sad for them and really wanna give them a big hug! A very tight one! To let them feel and know that we're still here. Always do. Kame and Nakamaru and Ueda! Don't leave us yet! We are not going away. Please don't blame yourself for what happen, no one can do anything after all and I do know what you guys did try your best to keep this together already! Thank you so much for all your hard work! And for those fans out there, please don't leave! Think of all the things we have been through! We are tough enough to pass another obstacles, don't you think so? 

The future of the group is still unclear but I do say whatever the decision is I respect them and always support whatever they decide to do. If the group still go on, I'll give all my might! (haven't check my wallet yet...oops!)

ps. I know Kame love KAT-TUN so much, as much as a person can do. I hope things are going well and don't hurt him/them anymore than this. For a person like him, he can just left the group and do solo but he did not. That's how much he love this group. The feeling of love the group, I think it's all the same to Ueda ad Nakamaru. The other three I do believe they also love this group, of course they must do!, just that they have their reasons for things. 

ps2. Kame, let me give you a hug! Keep up! Remember you still have all of us on your side!

ps3. I typed all of these out even though I know they are not going to see it. Saying stuff to them like that...never mind that, I just love to do so. That's enough. :)

"We are not going to hide KAT-TUN's past, including Akanishi and Tanaka."
KAMENASHI KAZUYA, Countdown Concert 2013

THANK YOU ALL HYPHENS
THANK YOU KAT-TUN

0 ความคิดเห็น:

[What to Love] Halloween, With Love | หนีเที่ยว ฮาโลวีน ข้าวสาร

08:49 Unknown 0 Comments

HAPPY …ummm POST HALLOWEEN! ! !
**ก่อนหน้านี้กะอัพที่ไปเที่ยวเกาหลีก่อนแต่ดันไม่มีเวลาเอาฟิล์มไปล้าง...รอรูปก่อนแล้วกัน มาเรื่องที่เพิ่งผ่านไปสดๆร้อนๆฝนตกปรอยๆกันดีกว่า**
เมื่อวานวันฮาโลวีน!
เผื่อใครไม่รู้(แต่เชื่อว่าน่าจะรู้หมดนะ) วันที่
31 ตุลาคมของทุกปีคือวันฮาโลวีน หรือ วันปล่อยผีของฟากตะวันตก คือให้แต่งตัวเป็นปีศาจเป็นผีกันออกไปเคาะๆประตูบ้านขอขนมน่ารักๆ Trick or Treat กันไป แต่นั่นเป็นการเล่นฮาโลวีนของเด็กๆไง ตอนนี้เราโตแล้วนะเว้ย เราก็ขอยกระดับการเล่นนิดนึง พอโตจากเด็กขึ้นมาการเล่นฮาโลวีนก็ไม่ใช่แค่แต่งตัวเป็นผีอีกต่อไปอ่ะ ตอนนี้ทุกคนนีแฟนซีกันเต็มมาก เราชอบมากเวลาเห็นคนเอนจอยกับพวกเทศกาลหรือเล่นอะไรกันแบบนี้ โดยเฉพาะวันฮาโลวีนและวันคริสมาสต์ อาจะเพราะเรียนโรงเรียนนานาชาติมันมีจัดงานทุกปีจะอินก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่แค่อินแต่จริงๆคือ obsess (ฮา) เมื่อวานกรี้ดกับทุกคนที่แต่งแฟนซีฮาโลวีนมาแล้วพูดคำว่าน่ารักเกินสิบครั้งได้ (น่ารักไม่ใช่แต่งหน้ารักนะ แต่เหมือนแบบ...น่ารักเพราะแต่งมาเล่นฮาโลวีนกันงี้ มันเป็นการกระทำที่น่ารัก ฮา)


กลับเข้าเรื่อง เทศกาลฮาโลวีนของเราต่อ คือไม่เคยไปข้าวสาร แล้วไม่เคยไปไหนในวันฮาโลวีน(นอกจากที่โรงเรียน) เลยตัดสินใจไปข้าวสารเปิดหูเปิดตากันซะหน่อย ที่เที่ยวอะไรแบบนี้มักจะเล่นเทศกาลกัน มาดูบรรยกาศความ...แน่นของข้าวสารกันเล้ยยย

แอบบอกก่อน...ส่วนใหญ่จะเป็นรูปแอบถ่าย (ขออนุญาตผู้ที่อยู่ในภาพใน ณ ที่นี้ด้วย...ทันป่ะ แงง) แล้วคนที่แต่งฮาโลวีนมามีเยอะมากบางคนขอถ่ายไม่ทันเพราะตอนนั้นลืมคิดว่าเอออัพบล็อกก็ดีเนอะ นั่นแหละๆ เอาเท่าที่ได้เนอะเนอะ
เราไปนั่งร้าน Golf Bar กับเพื่อนค่ะ ได้เจอสาวๆสามคนนี้ ตอนพวกนางเดินเข้ามาโซนร้านอีนี่คือกรี้ดเลยจริงๆ น่ารักมากกกกก(ก.ไก่ล้านตัว) ตอนแรกแอบถ่ายพวกนางก่อน แล้วเริ่มคิดได้ตอนจะออกจากร้านเลยไปขอสาวๆถ่ายดีๆ คือเต้นกันมันส์มาก แต่งตัวกันน่ารักมาก ฮาโลวีนมากมาก 
ที่นั่งของร้าน Golf Bar คือจะมีริมทางนอกร้านด้วยอ่ะ เรานั่งกันตรงนั้น...นั่งไปก็ส่องคนแต่งฮาโลวีนกันไป ข้าวสารคนเยอะมากจริงๆ เดินไปเดินมาคือเบียดอ่ะ เพราะร้านมันเถิบออกมาตรงทางเดินเยอะด้วยมั้ง ก็ตามประสาคนนั่งอยู่ข้างในเดินออกไปขอถ่ายไม่ได้ก็...แอบถ่ายค่ะ (แหะๆ)
พี่อินเดียแดงชุดเด่นมาก รีบคว้ากล้องขึ้นมาถ่าย
แก็งนี้น่ารัก แต่งหน้ากันหมดเลย  
สองคนนี้ไม่ได้แต่งค่ะ แต่สเต็ปการแดนส์นี่สุดมาก

งานแปะคลิปก็มา เป็นสองคนที่น่ารักดี
คนนี้แต่งหน้าสวยเหมือนกัน ขอแอบถ่ายหน่อย

สองสาวกำลังอะเมซกับการแต่งหน้า้ของพี่เสื้อเหลือง คือแผลแหวะได้ใจมากไรงี้ (โปรดโฟกัสที่กลางภาพ ด้านขวานี่ชัดเฉยไม่ได้ตั้งใจโฟกัสเลย 55555) อยู่ที่ร้านซักพักก็กะย้ายร้าน ไปเดินหาร้านกันหน่อย 
เดินไปทางท้ายข้าวสาร ผ่าน Lucky Beer เจอคนนี้เข้าไป...ยอมใจค่ะ โนบรานะคะแต่มีสติกเกอร์แปะไว้หน่อย คนเยอะดีจริงๆ
 อันนี้หันไปเจอพอดี คุณพ่อแต่งเต็มมาก นึกว่าจะงับหัวคุณลูก
คู่นี้เห็นตั้งแต่ตอนนั่งที่ร้าน แต่ถ่ายไม่ทัน พอเจออีกรอบก็เลยรีบขอถ่าย น่ารักมาก ตอนแรกเห็นก็นึกถึงYogi Bearแต่พอเสิร์ชดู...ก็ไม่ใช่ป่ะ เพราะผู้ชายใส่ชุดสีนี้ หรือเรื่องไรอ่ะมันเหมือนเรื่องอะไรซักอย่าง ใครรู้ช่วยบอกๆ 
 อันนี้ก็มาเป็นแฟมีลี่ จริงๆแอบหวังจะเจอคนแต่งเป็น Addams Family แต่ก็ไม่มี (เสียใจ)
Mario & Luigi ก็มา สองอันนี้ต้องมีในทุกฮาโลวีนจริงๆ เคยเห็นรูปของที่ญี่ปุ่นคือยกมาทั้งรถคาร์ทเลย กะเล่นกันเต็มมากจริงๆ
สามสาวเชียร์ลีดเดอร์ค่ะ ตอนที่ไปขอเค้าคือมีคนขอเค้าถ่ายเยอะมากจนเค้าไม่ได้เดินไปไหน แอบนอยหน่อยๆแต่ก็ยอมให้ถ่าย ตอนถ่ายก็บอกให้รีบๆถ่ายๆ (อารมณ์ประมาณว่าชั้นจะได้ไปเที่ยวของชั้นต่องี้)
เดินไปอีกหน่อยก็เจอbackdropถ่ายรูปที่estเอามาตั้งไว้ ที่เด่นไม่ใช่backdropนะ แต่คนที่ยืนถ่ายกันนี่ดิ แต่งสุดมาก เอาจริงเราว่าเรากลัวผีแบบนี้มากสุดละ คือนางรำห้องหุ่นมากๆ 

นอกจากนางรำก็มีกุมารค่ะ แต่ตัวนี่ไม่กุมารแล้วนะ 
พอเสร็จจากสองกุมาร ก็ต้องขอสองคนตรงกลางถ่าย ผู้หญิงน่ารักมากมาก แบบมากมาก ไม่ไหวแล้ว 
แต่งเป็น Corpse Brideคือดีมากกก ชอบมาก ลงทุนลงสีมากสีฟ้ามาเต็มจริงๆ 
คือเป็นคนชอบผลงานของTim Burtonและชอบมากเวลาเจอคนแต่งเป็นคาแรคเตอร์ของเขา อย่างJack Skellington กับ Sally จาก Nightmare Before Christmas กับ เรื่อง Corpse Brideนี่ คนชอบแต่งกันมาก (ปีที่แล้วมีนักร้องญี่ป่น Kyary Pamyu Pamyuก็แต่งเป็น Corpse Bride อันนั้้นชุดเต็มมากตามสไตล์นาง แล้วในงานที่นางไปTim Burtonก็ไปงานเดียวกัน นี่กรี้ดหนักมาก) 

 มีเวทีด้วยนะ เอาดีเจมาเล่น
แล้วตอนเดินไปเดินมาหาร้านจะนั่งต่อ อยู่เพื่อนก็มีฝรั่งมากอดคอถ่ายselfie ก็ยิ้มกันงงๆกันไป 
สองคนนี้คือไล่ขอถ่ายSelfieกับคนอื่นตามทางไปเรื่อยๆ ตอนแรกเราก็แอบถ่าย พอเขาหันมาเห็นรีบหันมายิ้มให้กล้อง แถมรีบวิ่งเข้ามากอดคอถ่ายselfieเราเข้าไปอีก ก็ฮากันไป น่ารักดี ดูเขาเอนจอยสถานที่และบรรยากาศเที่ยวสุดๆ
ทิ้งท้ายด้วยภาพทางเดินที่คนยังเยอะตลอด...สรุปก็หาร้านต่อไม่ได้แถมต้องขับรถอีก กลับดีกว่า

ก่อนไปขอแปะความบ้า Nightmare Before Christmas เล็กน้อย 
รู้สึกว่าจะเป็นคลิปเต้นของรายการที่อเมริกา Dancing with the Stars เทปล่าสุด เป็นการแสดงของ Team Nightmare เป็น Halloween Special ดูเลยข่าา ชุดน่ารักเต้นกันดีมาก เพลงน่ารัก(อวยหน่อยเพราะเพลงจากเรื่องNightmare Before Christmas ชอบบบ)

Credit.
DWTS's vdo from Youtube
Thank you so much all the people in my photos both I have asked for permission and those whose I have not. 

- THANK YOU -

0 ความคิดเห็น: