[MyMeMind] Run For Flight | วิ่งขึ้นเครื่อง ระทึกสุด ส่งท้ายปี2015

08:40 Unknown 1 Comments

こんばんは ~

เพิ่งกลับมาถึงกรุงเทพสดๆร้อนๆ(ไม่ร้อนมากคือตั้งแต่บ่ายสาม) หลังจากไปอยู่ประเทศเกาะมาเป็นเวลา...10วัน 
เป็นทริปที่ยาวนานมาก คือจริงๆมันก็ไม่ได้นานขนาดนั้นนะ แต่รู้สึกเหมือนนานมาเพราะเดินทางระหว่างเมืองเยอะ นั่งรถไฟเยอะ เหนื่อย รอบหน้าลดวันไม่เกิน7วันละไม่ไหวจริงๆ

แต่เห้ยที่มาโพสบล็อกวันนี้ไม่ใช่ไร ไม่ได้มาเล่าว่าไปไหนมาบ้างแต่มาเล่าเรื่องระทึกใจที่สุดในรอบปี2015ของเรา...และของครอบครัวเรา(เค้าก็คงจะระทึกเหมือนกันแหละ)

คือวันนี้เป็นวันที่เราบินกลับ เครื่องบินที่ซื้อตั๋วกลับไว้คือ 11โมงตรงจากสนามบินคันไซมายังบังค๊อกคุ(ออกเสียงตามคนบนเกาะ) วันก่อนหน้าก็ไม่มีไร ก็ไปซื้อตั๋วรถไฟด่วนสายตรงไปสนามบินปกติ ก็ซื้อรถไฟเที่ยว 7.47น. คือกะไปถึงก่อนเพราะนั่งไปชั่วโมงนึงถึงแล้วจะได้มีเวลาซื้อขนมที่สนามบินตามสไตล์คนไทยที่ไปขนขนมที่สนามบินหมดชั้นตลอดตลอด 

แต่!!! 
เหตุการณ์ดันไม่เป็นไปตามที่กะไว้อ่ะดิ 
วันนี้ก็ตื่นกันเช้ามาก อาบน้ำแต่งตัวเก็บของเรียบร้อยเดินมาที่สถานีรถไฟตั้งแต่เจ็ดโมง คือมาก่อนรถไฟด่วนที่จะไปสนามบินเที่ยวแรกด้วยซ้ำแต่เราก็ซื้้อเที่ยว7.47ไว้ก็ต้องรอกันไป พอจะถึงเวลาก่อนซัก10นาทีก็เคลื่อนตัวเคลื่อนกระเป๋าลงไปรอที่ชานชาลา หันไปที่ป้ายที่จะบอกว่ารถไฟขบวนไหนจะเทียบท่าบ้างแล้วงี้ ก็เห็นขึ้นว่ารถไฟจะมาช้ากว่าเวลา15นาที ก็เอ๊ะ...ทำไมวะ ปกติอีรถไฟประเทศนี้มันไม่เคยดีเลย์นะ สถิติคือทั้งปีเฉลี่ยการมาไม่ตรงเวลาของรถไฟนี่ไม่ถึง10นาทีของทั้งประเทศอ่ะ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากก็นั่งรอต่อแถวต่อไปเพราะอีกแปปรถไฟก็คงจะมาแล้ว...แต่มันไม่เป็นแบบนั้นค่ะ เพราะจาก15นาที มันเริ่มขยับเป็น 20นาที 25นาที 30นาที และ 40นาที พอถึงจุดนี้คนรอบข้างเริ่มมีอาการกระวนกระวายเริ่มขยับตัวเดินไปหานายสถานีเพื่อจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น รถไฟจะมาไหม จะมาหรือยัง จะมากี่โมง บลาบลา ตอนคนอื่นเค้าเริ่มตระหนักถึงเหตุการณ์สุดวิสัยเราก็ยังไม่รู้สึกถึงเหตุการณ์ใดใดเท่าไหร่นัก จนกระทั่งต่างชาติที่ต่อแถวอยู่ข้างๆเริ่มโวยวายกันเองและลากกระเป๋าจะย้ายถิ่นขึ้นลิฟท์ไปที่อื่น พอถึงจุดนี้อีนี่เริ่มงงค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมทุกคนจะไปไหนวะ เห้ย...ไม่ได้ละต้องถามละ เลยหันไปถามผู้ชายข้างๆว่าพวกยูจะไปไหนกันอ่ะ เกิดอะไรขึ้นหรอ สรุปนี่จะรถไฟจะไม่มาหรอ เค้าก็บอกว่าเมื่อกี้นายสถานีบอกว่ารถไฟจะมาช้ากว่าเวลาเกือบหนึ่งชั่วโมง เค้าจะไปสนามบินเส้นทางอื่นแล้วไม่งั้นเดี๋ยวไม่ทันเครื่องบิน เมื่อได้ยินเช่นนั้นนี่ก็รีบวิ่งไปหานายสถานีและถามเองว่าเกิดอะไรขึ้น ตกลงรถไฟจะมากี่โมง แล้วก็ได้คำตอบแบบเดียวกันคือ รถไฟอาจจะมาช้ากว่าเวลา1 ชั่วโมง อาจจะนี่คือไม่รู้ว่าจะหนึ่งชั่วโมงไหม(ถ้าหนึ่งชั่วโมงก็คือมันจะตามตอน9โมง)หรืออาจจะช้ากว่านั้น 




พอได้ยินเยี่ยงนั้นจากนายสถานี ก็ได้เวลาที่เรารู้สึกตัวซักทีว่าต้องหาทางอะไรซักอย่างหรือไปเส้นทางอื่นนะเว้ย!ไม่งั้นตกเครื่องแน่ๆ (ณ ตอนนั้นคือเวลา 8.19น.) ก็กดหาในเว็บว่ารถไฟขบวนไหนจะมาแล้วจะได้ไปลงที่ Osaka Sta. หรือ Tennoji Sta. แล้วต่อรถไฟจากตรงนั้นไปแทน ก็มขบวนนึงจะไปTennoji Sta. พอดี ก็วิ่งสิคะ ตากชานชาลา11วิ่งไป17 พอลงไปตรง17 สรุปอีรถไฟของทางนี้ก็มาจากที่เดียวกันกับอีรถไฟด่วน...ง่ายๆคือมันก็ดีเลย์เหมือนกัน -_- สวรรค์เบี่ยงมากมาก เลยเอาวะไปรถไฟใต้ดินแทนก็ได้วะเลยจะไปrefundตั๋วที่ซื้อมาแต่พอยื่นจะrefund พนักงานที่ทางออกก็บอกว่าให้กลับไปที่รถไฟที่ซื้อไว้(อีขบวนที่ดีเลย์40นาทีนั่นแหละ) นางบอกมันจะมาแล้ว จะมาแน่ๆ นี่ถามเป็นภาษาอังกฤษหมดนะ พนักงานก็...ไม่รู้ฟังออกมากน้อยแค่ไหน นางก็บอกแค่ว่ารถไฟขบวนที่ยูจะไปอ่ะมันเป็นรถไฟด่วน เร็วสุดแล้วๆ ให้ไปรอๆ รถไฟจะมาแล้วนะจริงๆ (ง่ายๆคือจริงๆแล้วคุยไม่รู้เรื่อง บอกนางว่านี่ถ้ารถไฟที่บอกจะมาแล้วๆไม่มานี่เราจะตกเครื่องบินแน่ๆละนะ นางก็ยืนยันกันหมดทั้งสามสี่คนว่า มาแน่ๆ) ในเมื่อพนักงาน(ที่พูดไม่รู้เรื่องเท่าไหร่นัก)ยืนยันว่ารถไฟจะมาจะมา เราและครอบครัวเลยตัดสินใจวัดดวงกับพวกนางและกลับไปที่ชานชาลา11อีกครั้ง 

(คือระหว่างที่คุยกับพนักงานอยู่ มีพี่คนไทยสองคนที่จะไปรถไฟขบวนเดียวกันตัดสินใจวิ่งออกไปแล้วไปรถไฟใต้ดินแทนเพราะพนักงานอีกคนที่คุยกับพี่เค้าบอกว่าให้ไปใต้ดินๆๆๆ...สรุปพนักงานรถไฟที่นี่มันจะเอายังไง อีกพวกบอกให้กลับไปรอรถไฟ อีกพวกบอกให้ไปทางอื่น) 

พอกลับไปถึงชานชาลา จากเวลา40นาที ตอนนี้เป็นเปลี่ยนเป็น 55นาที เรากับน้องสาวก็...เอาวะ ช่างมัน รถไฟมันมาแน่ๆแหละ เพราะตอนแรกมันเอาออกไปเลยประหนึ่งว่ามันจะไม่มาแล้วแต่ตอนนี้มันเอากลับมาขึ้นแล้วแปลว่ามันต้องมาแน่ๆ 

พอยืนรอไปอีกมันก็ขึ้นเป็น 60 นาที

จาก 60 นาทีก็เป็น 65 นาที

จาก 65 นาทีก็เป็น 70 นาที

และพอ 70 นาทีนี่แหละที่บนบอร์ดขึ้นว่ารถไฟกำลังจะเทียบชานชาลาแล้ว (ณ เวลา 9.00น. คือนายสถานีที่ไปถามตอนแรกนี่แม่นมาก มันมา9โมงจริงๆด้วย) 


สรุปรถไฟมาแล้ว ! ! ! Haruka No.7 ! ! !
ตอนแรกก็คิดว่าโอเครถไฟมาแล้ว วางใจได้แล้วแต่พอนึกไปนึกว่า...เห้ยแม่งนั่งอีกหนึ่งชั่วโมงถึงจะถึงสนามบินนี่หว่า แล้วไฟลท์เราคือ 11.00น. นะเว้ย แล้วเค้าให้check-inก่อนเวลาช้าสุดคือ1ชั่วโมง หรือ 45นาทีนะเว้ย ง่ายๆคือถึงชานชาลาปุ๊ปต้องวิ่งไปที่counter check-inปุ๊ป

ระหว่างนั่งไปก็เช็คมือถือไปว่าถึงไหนแล้ว ระทึกชีวิต ระทึกหัวใจชิบหายว่าจะทันไหม 
พอถึงก็รีบบอกพ่อกับแม่ให้วิ่งขึ้นไปที่counter check-inก่อนเพราะเรากับน้องต้องวิ่งไปเอากระเป๋าสามใบที่ส่งมาสนามบินก่อนหน้านี้ ความระทึกยังไม่จบเพียงเท่าที่ถึงสนามบินแล้ว...เพราะดันวิ่งไปที่รับกระเป๋าผิดฟาก ก็ต้องวิ่ง4x100ไปอีกฟากของสนามบินเพื่อไปเอากระเป๋าแทน เหนื่อยแทบขาดใจขาแข็งมาก แล้วคือเหนื่อยแบบหอบอ่ะ ล่กสุดๆ

check-inทัน (THANKS GOD!) แต่เค้าก็บอกว่าให้รีบผ่านตม.แล้วรีบตรงไปที่เกทเลยนะ (ย้ำมากประหนึ่งว่าหน้าอีนี่บ่งบอกมากว่าจะซื้อของแน่) เราก็เป็นคนดีทำตามที่พนักงานบอก...คือถ้าไม่ทำมึงไม่ได้บินแน่ๆจริงๆเพราะcheck-inเสร็จ10.10น. กว่าจะx-rayกว่าจะต่อแถวอีก หัวใจพี่เต้นแรงมากจริงๆจากความระทึก ระทึกหลายชั้นด้วยนะไม่ใช่แค่ชั้นเดียว เพราะพอผ่านตม.ไปแล้วรีบเดินไปที่เกท...คือเกทต้องนั่งmonorailของสนามบินไปอีก แล้ววิ่งไม่ทันขบวนก่อนหน้า...คือประตูปิดต่อหน้าต่อตา! กลัวไม่ทันมาก พออีกขบวนมาก็รีบขึ้นรีบลง พอลงแล้ววิ่งไปที่เกท...ยังมีคนต่อแถวรอขึ้นเครื่องอยู่ รอด! 


A video posted by Lin Sinanun (@kiplinkip) on
ขอสรุปสาเหตุและเหตุการณ์ของรถไฟ ณ ประเทศเกาะทางภาคคันไซที่เกือบทำครอบครัวเราตกเครื่องบิน...ตามข่าว(ที่น้องไปเปิดหามาและตามที่น้องกดดิกเชนนารีจากที่เค้าบอกบนบอร์ดที่สนามบิน)เค้าบอกว่า มีอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับคน ไม่รู้ว่าคือแบบคนพลัดตก หรือ คนกระโดดฆ่าตัวตาย หรือ อะไรมีปัญหา แต่มันบอกว่าเกี่ยวกับคนอ่ะ (ช่วงเวลาrush hourด้วยไง) เหตุเกิดที่Ibaraki เมืองทางตอนเหนือของโอซาก้าทางฟากรถไฟสายที่จะมาจากเกียวโต (แล้วรถไฟที่อีนี่จะไปมาจากทางเกียวโตพอดิบพอดี) เหตุเกิด ณ เวลา 7.34น. หรือก่อนหน้านั้นนิดหน่อยโดยประมาณ สรุปคือมันลากยาวจนมาถึงShin-Osakaแล้วมันก็เลทไปหมด 

อันนี้เว็บที่มีคนโพสเกี่ยวกับเหตุการณ์ http://matome.naver.jp/odai/2145091063492837301

นั่นแหละค่ะ คือเหตุการณ์นี่ลุ้นระทึกหัวใจและชีวิตที่สุดในรอบปีนี้ของเรา 
เป็นการฉลองครบรอบการไปประเทศเกาะครบครั้งที่10พอดี ดีงามเหลือเกิน 

ไว้เจอะเจอกันใหม่เจแปน วันหลังไม่เล่นแบบนี้นะคะลูกพี่หัวใจจะวายค่ะ
Merry Christmas Everyone :)

- THANK YOU -

1 ความคิดเห็น:

[Photo Blog] S.E.O.U.L. | ณ โซล หนึ่งม้วน หนึ่งอาทิตย์

06:24 Unknown 0 Comments

เริ่มต้นเดือนแห่งเทศกาลด้วย บล็อกไปเที่ยว!!!
พอดีว่าเมื่อเดือนตุลาไปเกาหลีมาลงซะหน่อย
เป็นทริปที่คิดน้อยที่สุด ซึ่งปกติจริงๆเวลาไปเกาหลีเนี่ยก็คิดน้อยอยู่แล้ว เพราะไปบ่อยแล้วอยู่แค่ในโซล อยากไปไหนก็ไป เดินไปไหนก็เดิน กินไหนก็กิน (แต่ตอนนั้นก็ไปแต่ที่เดิมๆ) แต่ทริปนี้มันแอบน้อยกว่าปกติไปหน่อยเพราะจองตั๋วก่อนไปแค่สามอาทิตย์ แถมอยู่ๆก็ไปแบบงงๆ(แต่ก็ไม่งงขนาดนั้น) ทริปนี้เป็นการไปเกาหลีหลังจากที่ไม่ได้ไปมาสามปี คิดถึงเกาหลีไหม...ไม่ขนาดนั้นนะ คิดถึงเพื่อนมากกว่าเพราะเหตุผลหลักของการไปคือไปหาเพื่อน คนละเหตุผลกับช่วงที่ไปบ่อยๆ...ตอนนั้นคือไปบ้าดารานักร้อง 

รอบนี้ก็พกกล้องฟิล์มไปด้วย
ถึงentryจะชื่อว่าหนึ่งม้วนแต่รูปที่ลงนี่ครึ่งม้วนเอง(ฮาาาา)
หวังตลอดว่ารูปคงออกมาดีไม่แรงรั่วเพราะก่อนหน้านี้มีปัญหาเรื่องนี้อยู่...แต่แสงก็รั่วเข้าอยู่ดี 
เสียดายนิดหน่อย แต่ก็สวยดี :)

เริ่มเลยดีกว่า

ไปช่วงที่ดอกหญ้าที่สวนฮานึลกำลังฟริ้งๆพอดี(คำอะไรวะฟริ้งๆ)
แต่วันที่ไปคือหลังวันที่เค้าจัดไฟที่สวนหนึ่งวัน...


อันนี้คือไปนั่งกินไอติมขนมชาเขียวที่O'sullocแถวอินซาดง 
สามารถเห็นการละลายของไอศครีมได้ถ่ายรูปจนไอติมละลายอ่ะคิดดิ
แล้วคือมันอร่อยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก...แบบมากมาก

ไม่ได้ถ่ายทุกวันเพราะเอากล้องดิจิตอลไปด้วยเลยขี้เกียจหิ้วกล้องแถมบางรูปแสงรั่วจนไม่กล้าเอามาลง นานๆทีจะได้ถ่ายและล้างฟิล์มมาลง :) 

Camera: Canon AE-1
Film: Kodak Gold 200
Developer: AIRLAB
Location: Seoul, South Korea
Date: 20-24.10.2015

ps. เดี๋ยวจะลงรูปจากอีกกล้องแบบเต็มๆพร้อมคำประกอบ(ที่คงไม่อยากอ่านเยอะเท่าไหร่แต่ก็จะลง :D)

-THANK YOU-

0 ความคิดเห็น: