[Movie Thought] Yowakutemo Katemasu | ตอนที่9 ถึงจะอ่อนแอ แต่เราก็ชนะได้ (นะเว้ย)

02:50 Unknown 0 Comments


"ถึงจะอ่อนแอแต่ก็ชนะได้"

ไม่ว่าใครพอได้ยินคำพูดนี้ก็คงคิดว่าเป็นคำพูดที่ไร้สาระของคนที่ขี้แพ้เพราะถือว่าเป็นคำพูดเลื่อนลอยของคนที่ไม่เคยเอาชนะได้เลย แต่ดันพูดออกมาเหมือนไม่รู้จักประมาณตัวเองและไม่มองความเป็นจริง แต่ประโยคนี้ก็มาเป็นชื่อละครที่ถือว่าเป็นหนึ่งในละครที่เมื่อดูแล้วสามารถสร้างกำลังใจให้คนดูได้เกินร้อยเปอร์เซ็นแน่นอน กำลังใจเกินร้อยเปอร์เซ็นอาจจะฟังเกินจริงไปหน่อย แต่พอได้ดูแล้ว...มันเป็นแบบนั้นจริงๆนะ

ละครที่พูดถึงนี้เป็นละครญี่ปุ่นเรื่อง 弱くても勝てます~青志先生とへっぽこ高校球児の野 ( Yowakutemo Katemasu ~Kaisei Koukou Yakiyuubu no Seori~) ชื่อเรื่องภาษาญี่ปุ่นช่างยืดยาวเหลือเกิน (นี่ถือว่าเป็นละครญี่ปุ่นเรื่องที่สองที่เคยดูมาที่ชื่อยาวเหยียดขนาดนี้นะ) หรือ เอาง่ายๆภาษาไทยก็เอาตามที่คนแปลตั้งมาก็ “ถึงจะอ่อนแอแต่ก็ชนะได้” นั่นแหละ

เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชมรมเบสบอลของโรงเรียนม.ปลายที่ถือว่าเป็นโรงเรียนที่เน้นเรื่องการสอบเข้ามหาวิทยาลัย แค่สถานที่เริ่มต้นมันก็บ่งบอกถึงความอ่อนในความสามารถในการเล่นเบสบอลของทีมนี้แล้ว และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆนั้นแหละเพราะตั้งแต่มีชมรมเบสบอลมาก็ไม่เคยที่ทีมนี้จะชนะการแข่งครั้งไหนเลย มิหนำซ้ำยังเล่นไม่จบเกมจบอินนิ่งอีกต่างหาก เรื่องมันก็เริ่มมาจากความห่วยของทีมโรงเรียนนี้และได้ความช่วยเหลือจากโค้ชคนใหม่ที่เคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนนี้แถมเป็นอดีตผู้เล่นเบสบอลด้วย(แต่ก็เล่นแพ้เหมือนกันน่ะนะ) โค้ชคนใหม่ อาโอชิ ทาโม่(แสดงโดยนิโนะ วง Arashi)ก็นำพาการเปลี่ยนแปลงมาสู่ทีม
จากเรื่องราวในแต่ละตอนสิ่งที่โค้ชอย่างทาโม่สอนให้ทีมไม่ใช่การซ้อมอย่างหนักเพื่อจะเอาชนะ แต่เป็นการรับรู้ถึงความสามารถและขีดจำกัดของทีมตัวเอง ให้ทีมรู้ว่าตัวเองนั้นอ่อนแอและยอมรับว่าตัวเองอ่อน แต่ไม่ใช่ว่าความอ่อนของตัวเองนั้นเป็นสิ่งไม่ดี มันเป็นสิ่งที่ดีเพราะการที่เรารู้ว่าตัวเองไม่เก่งและพยายามในแบบของตัวเอง(แบบเวลาการซ้อมที่จำกัดเพราะเน้นเรื่องเรียนอ่ะนะ)เพื่อชัยชนะเพื่อแสดงให้คนรอบข้างเห็นว่าไม่ยอมแพ้นั้นแหละที่สำคัญที่สุด

เราว่าจุดตรงนี้แหละที่ถือว่าเป็นข้อคิดที่ดีจากละครเรื่องนี้ เพราะถ้าหากรู้ว่าตัวเองอ่อนแอและยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ได้พยายามอย่างสุดความสามารถมันก็ไม่ต่างอะไรกับที่คนอื่นมองเราว่าไม่ได้เรื่องและสมแล้วกับที่ไร้ความสามารถ สิ่งที่สมควรทำคือเราต้องเชื่อมั่นกล้าชนกับความไม่ได้เรื่องของเราและลุยไปนั้นแหละ เหมือนในเรื่องโค้ชก็จะให้ซ้อมตีซ้อมเหวี่ยงไม้ไปเรื่อยๆไม่ต้องไปสนใจหรอกว่ามันจะตีออกมาเป็นยังไงไกลไหมหรือดีสวยไหม แค่ตีออกไปอย่างสุดพลังของเราก็พอแล้วเพราะถ้าไม่ลองเหวี่ยงไม้ออกไปก่อนเราก็ไม่มีทางรู้ได้หรอกว่าลูกมันจะออกมาเป็นยังไง เหมือนในรูปที่บอกว่า "ช่างมัน ช่างมัน" ไม่ใช่ช่างมันแบบขอไปทีแต่ช่างมันเพราะมันผ่านไปแล้วมันเป็นอดีตเราแก้อะไรไม่ได้ สิ่งที่เราต้องสนใจคือปัจจุบันหรือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นต่างหากว่าต้องทำให้ดีที่สุด
ร่ายมายาวมากคือจริงๆแล้วจะพูดถึงตอนที่ 9 ของเรื่องนี้เพราะเพิ่งดูจบก่อนเขียนบล็อกนี้ได้...ไม่ถึง 10นาที ตอนที่9เป็นตอนที่เราคิดว่าเราชอบมาที่สุดเท่าที่ดูมาเพราะมันเป็นตอนที่ทีมสามารถชนะได้เป็นครั้งแรก ครั้งแรกนี่คือครั้งแรกจริงๆนะ ครั้งแรกของโค้ชอย่างทาโม่เองด้วย และก็เป็นครั้งแรกของทุกคนในทีมหรืออาจจะเป็นครั้งแรกในประวัติโรงเรียนเลยด้วยมั้ง(ฮา...อันนี้ไม่รู้มั่วเอา) มันเหมือนได้เห็นว่าความพยายามของทุกคนสำเร็จแล้ว เราแสดงให้เห็นได้แล้วว่าถึงเราจะอ่อนแอ แต่เราก็สามารถชนะคู่แข่งที่แข็งแกร่งกว่าเราในแบบฉบับของเราได้(นะเว้ย)
ชัยชนะในตอนที่9 แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่พวกเขากำลังทำไม่ใช่สิ่งที่ผิด การที่ไม่ยอมแพ้ต่อความไม่ได้เรื่องในการเล่นเบสบอลของตัวเองและไม่ยอมแพ้ต่อเสียงต่อว่าของคนอื่นที่หาว่าดูถูกเบสบอลเพราะเหมือนทำอะไรครึ่งๆกลางๆ(ประมาณว่าเป็นโรงเรียนที่เน้นเรื่องสอบเข้ามหาลัยจะทำมาเป็นเล่นเบสบอลให้เกะกะคนที่เขาเอาจริงเอาจังทำไมกัน)ไม่ได้ผิด ความชื่นชอบในเบสบอลและอยากจะเล่นเบสบอลของทุกคนแล้วได้พยายามมาถึงจุดนี้และได้พิสูจน์ตัวเองได้แหละสุดยอด

//

จากตอนแรกที่ดูไปงั้นเพราะเป็นคนชอบเบสบอลและดูน่าสนใจดีกลายเป็นว่านั่งดูไปนั่งลุ้นนั่งเชียร์ไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ลุ้นอย่างกับตัวเองอยู่ขอบสนามทั้งๆที่เกาะอยู่ที่หน้าจอโน้ตบุคตัวเองแบบไม่ขยับไปไหนเลยต่างหาก เรื่องนี้ทำระดับอารมณ์ระหว่างเรื่องได้ดีมาก ค่อยๆเพิ่มอารมณ์ของคนดูไปเรื่อยๆตามเรื่องราวในละคร ถ้าใครได้ดูก็คงจะหลงรักในตัวนักแสดงทุกคนโดยเฉพาะตัวโค้ชที่สุดแสนจะเอื่อยเฉื่อยทำหน้าเป็นตาแก่ตลอดเวลาอย่างอาโอชิ ทาโม่ เพราะถึงแม้ว่าคนๆนี้จะทำหน้าไม่แคร์โลกเท่าไหร่นักแต่ความรักในเบสบอลและความมุ่งมั่นในการเอาชนะที่แถมคำสอนดีดีอีกมากมายนั้นพุ่งกระฉูดเกินปรอดวัดแน่นอน

นากาจิม่า ยูโตะ
ฟุคชิ โซตะ

ยามาซากิ เคนโตะ

คือจริงๆแล้วที่มาดูเรื่องนี้นอกจากจะเพราะสนใจในเบสบอลแล้ว นักแสดงก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ดีและเป็นแรงจูงใจที่ดีในการลองเปิดเข้ามาดู เรื่องนี้เอาจริงมันคือความดีงามของการรวมตัวกันของนักแสดงวัยรุ่นอายุ20ต้นๆอย่างเห็นได้ชัด ตัวเด่นในเรื่องอย่างคนแรก นิโนะมิยะ จาก  Arashi (อาจจะบอกว่าเป็นอดีตนักแสดงวัยรุ่นก็ได้เพราะที่จริงๆก็ไม่ใช่20ต้นๆเพราะตอนนี้ก็ขึ้นเลข3แล้ว)ที่แสดงละครมาหลากหลายเรื่อง) คนที่สองคือ นากาจิม่า ยูโตะ จาก Hey!Say!Jump (เล่นละครมาตั้งแต่เป็นเด็กตัวกระเปี๊ยกจนตอนนี้คือโตเป็นหนุ่มหล่อมากกกกกก) คนที่สามก็ ฟุคุชิ โซตะ นักแสดงวัยรุ่น(มาแรงแซงโค้งที่ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมามีทั้งละครทั้งหนังเยอะแยะเต็มไปหมด) คนที่สุดท้ายคือ คามาซากิ เคนโตะ หรือ ยามะเคน (ในเรื่องอาจจะไม่เด่นมากนักแต่...ตอนนี้นายเด่นมากในวงการเพราะละครก็เยอะพอๆกับโซตะแถมตอนนี้มีเรื่องDeath Noteอีก) หลักๆที่เป็นสิ่งดีงามของเรื่องก็เป็นสามหนุ่มหลังเพราะทุกคนหล่อมากถึงแม้ว่าในเรื่องนี้ยูโตะจะดูดีที่สุดก็เหอะ(อวยสุดไรสุด) ดูไปกรี้ดกับความหล่อของยูโตะ โซตะ และยามะเคนไป (เออะ...จริงๆไม่ได้ตั้งใจดูละครชะมองแต่หน้านักแสดง)มันดีมากเลยค่ะ
สามคนเรียงค่ะ คือดี๊ดี (คนที่สี่ก็เล่นละครเยอะนะ)

ขอแนะนำให้ดูเลยเพราะมันเป็นอะไรที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า #เขาว่าพระเอกญี่ปุ่นไม่หล่อ ไม่ใช่เรื่องจริงนะคะ

ปล. ขอเชิญชวนให้เปิดเข้าไปดูในแท็ก #เขาว่าพระเอกญี่ปุ่นไม่หล่อ ในทวิตเตอร์ค่ะ แล้วคุณจะเห็นถึงความดีงามในหน้าตาของพระเอกหลากหลายคน
ปล2. ละคร ซีรีย์ ญี่ปุ่นไมได้ไร้สาระไปหมดอย่างที่คิดกันเองนะคะ มันมีหลากหลายแนวมากและในความหลากหลายนั้นแต่ละเรื่องก็มีข้อคิดดีๆและมุมมองดีๆในชีวิตของเราให้เราได้ลองเก็บมานั่งคิดและกลับมามองดูเหมือนกัน 
ปล3. ใครสนใจดูเรื่องนี้กดตามลิงค์นี้ได้เลยนะ >> Yowakutemo Katemasu ถึงอ่อนแอแต่ก็ชนะได้ (Dark-Drama)

เครดิต: รูปที่แคปมาจากเพจDark-Dramaค่ะ ขอโทษที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนนำมาใช้

-Thank You-

0 ความคิดเห็น:

[Place to Eat] HOIHOM | หอยหอมหอม หอมหอยหอย เลยมากินหอยหอม

09:47 Unknown 0 Comments

และแล้วเราก็มาถึงหัวข้อบล็อกที่คนน่าจะชอบกันม๊ากมาก

นั่นก็คือ... ของกิน ...

วันนี้ (แต่ที่กินนี่หลายวันที่แล้วเพิ่งมีเวลามาเขียน) จะพาไปกิน "หอย"
มีหลากหลายหอยให้เลือกชมชิมกันเลย ทั้งหอยหลอด หอยหวาน หอยแมลงภู่ หอยเชลล์โอยยย สารพัดหอยอ่ะ ดูกันเองดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
ร้านชื่อ "HOI HOM" หรือ ห้อยห้อม อ่านแบบติดสำเนียง ไม่ใช่ละ "หอยหอม"ค่ะ
คือจริงๆอ่านแค่ชื่อร้านก็รู้แล้วว่าขายอะไร

ร้านอยู่ที่ตลาดนัดรถไฟรัชดา ข้างๆเอสพลานาดรัชดาเลย เพิ่งจะเคยไปเหมือนกันเพราะเพื่อนนัดเจอกินกันพอดีและตัดสินใจไปร้านนี้ที่เป็นของรุ่นพี่เพราะคิดไม่ออกแล้วว่าเราจะไปไหนกันดี

บอกไว้ก่อนเลยว่าที่เขียนครั้งนี้ไม่ถึงกับจะมารีวงรีวิวว่า เห้ย รสชาติหอยมันสดกระจายถึงลิ้นโน่นนี่ อธิบายเป็นร้อยแปดถึงความเลิศเลออะไรโน่นนี่มากมายเพราะเขียนไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ที่สามารถให้ได้น่าจะเป็นรูปภาพมากกว่า


กลับมากับการเดินทางไปหาหอย ร้านอยู่โซนตู้คอนเทนเนอร์ในตลาดนัด แอบเดินเข้าไปด้านในตลาดหน่อยแต่ก็ชอบโซนนี้ดีนะ ดูเก๋ๆใช้ตู้คอนเทนเนอร์ทำร้าน ก็อาร์ทๆกันไปแบบartbox


พอเดินมาถึงโซนตู้คอนเทนเนอร์ ร้านก็จะเดินเข้ามาอีกหน่อยแล้วอยู่ทางซ้ายมือ มีบอร์ดเขียนกันไปว่าวันนี้ขุดหอยอะไรมาให้เราปิ้งกันบ้าง! มีหอยชักตีน หลอด แมลงภู่ หวาน เชลล์ เอาตามสะดวก
 
อันนี้เคาเตอร์ร้าน วันนี้รุ่นพี่ที่รู้จักไม่มาเฝ้าร้าน อดขอของแถมที่อุตส่าห์เตรียมใจจะได้ไว้ (ฮาา แต่จริงๆก็ได้อยู่ดีเพราะพี่อีกคนจำเพื่อนได้)
ก็บอกแล้วว่าร้านหอยก็ขอซูมหอยให้เห็นกันชัดๆหน่อย หอยหลอดตัวเบ้ง หอยหวานเป็นภูเขา หอยชักตีนที่ดึงไม่เคยออก(เสียใจ...คือไฟท์กับกองหอยชักตีนนานมาก สรุปดึงไม่ออก ไม่ใช่หอยไม่ดีแต่อีเราสิไม่ดี ปิ้งไม่เป็น)
ว่าแล้วก็ต้องจัดสิคะ มาดูเมนูกันหน่อย มากันโขยงนึงวุ่นวายมากมายเพราะกว่าพวกนี้จะนั่งกันได้ จะปักหลักกันได้ รู้สึกสงสารและขอโทษรุ่นพี่และลูกค้าท่านอื่นมา ณ ที่นี้ด้วย
หลักๆก็มีตามนี้ มีเป็นเซ็ต 3 เซ็ต 299บาท, 499บาท, 999บาท ความยากง่ายเยอะน้อยในการปิ้งก็ตามปริมาณหอย หรือถ้าจะไม่เอาเป็นเซ็ตก็มีให้เลือกเป็นอย่างๆนะ ราคาก็ตามในรูป

ตอนเรากินกันก็สั่งเป็นเซ็ตใหม่สุดมาเลยสองเซ็ต ไปกันสิบคน...เซ็ตเดียวคงเอาไม่อยู่ และแล้วหอยก็มาเป็นbucketค่ะ ในเซ็ตจะมี เอ็นหอย หอยแมลงภู่ หอยเชลล์ญี่ปุ่น หอยหลอด หอยหวาน มีครบหมดแบบไม่ต้องเลือกถ้าเลือกไม่ถูก เอามาลองให้หมด

หลังจากตรงนี้ขอเป็นรูปแบบคำอธิบายไม่เยอะแยะเพราะรูปน่าจะบอกได้หมด ถ่ายตอนเอาหอยลงตอนแรก หลังๆไม่ค่อยได้ถ่ายเพราะกินอย่างเมามัน มือเลอะ เดี๋ยวกล้องเลอะ (ฮาาาา)
ภาพหลังจากนี้ของหอย...ไม่มีค่ะ คือมือเลอะแล้วอ่ะ อันนี้หอยหลอดตัวใหญ่มาก อร่อยมาก ชอบมาก ส่วนหอยเชลล์อันนี้สั่งนอกเหนือจากในเซ็ตไปอีก4ที่ เพื่อนบอกหอยสดและตัวใหญ่ แย่งกันเยี่ยงจะฆ่ากันตาย เกิดศึกชิงหอยกันเล็กน้อย แต่ที่แอบขัดใจหน่อยนึงคือน้ำจิ้มของทางร้าน น้ำจิ้มน่าจะแซบกว่านี้หน่อย มีความรู้สึกว่ามันยังไม่ถึงรสขนาดนั้น หรืออาจจะเป็นคนชอบกินรสจัด เลยอยากได้เผ็ด โดยรวมคือดีงามหมดอ่ะ ดีงามที่ได้ของฟรี (เออะผิด)

เสร็จจากหอยก็หาอะไรกระแทกปากตบท้ายไปเรื่อยๆรอบตลาด มีของกินเยอะมาก...ขอบอกว่าเยอะมากมากกกกกกกก ทั้งของคาวของหวาน ของกินเล่น ของกินจริงจัง เดินกันรอบนึงก็หยุดกันไปหลายร้าน
สรุปเบ็ดเสร็จค่าเสียหายของหอยคือคนละ 300กว่าบาท(ล่ะมั้ง...จำไม่ได้ง่ะ) แอบงงว่าทำไมมันเท่านี้พี่ลดราคาเยอะไปหรือคิดราคาผิดรึเปล่า แลดูกินกันไปเยอะกว่านี้มากนะ ขอบคุณพวกพี่ๆด้วยค่ะและขอโทษที่วุ่นวานกันเล็กน้อยถึงปานกลาง

ใครอยู่แถวรัชดา ใครจะไปเดินเล่นตลาดนัดรถไฟ ใครอยากกินหอย ใครอยากกินซีฟู้ด ใครอยากกินอะไรปิ้งๆ หรือ ใครอยากอะไรซักอย่างที่คิดไม่ออกว่าอะไร แนะนำไปลองที่"หอยหอม"ดูนะ พ่อค้าใจดีดีงามแซบมาก วันนั้นรุ่นพี่อยู่กันสองคน...จริงๆมีกันหลายคนผลัดเปลี่ยนกันไป (ขายรุ่นพี่แปป) ของในร้านจริงๆแล้วไม่ได้มีแค่หอยนะ บางวันจะมีกุ้งมังกร ปลาหมึก หรือ กุ้งแม่น้ำด้วย ลองแวะไปกันดูนะคะ
แผนที่ร้านเครดิตจากInstagramของร้านค่ะ
ร้านหอยหอม ตลาดนัดรถไฟรัชดา
เปิดวัน อังคาร - อาทิตย์ 
เวลา 18:00-24:00 
Facebook page: HOI HOM
Instagram: @hoihom

- THANK YOU -

0 ความคิดเห็น: