[Travel Diary] Finally, Seoul #2 | ทริปเดินวันสอง บุคชอน อินซาดง ชองเกชอน

07:08 Unknown 0 Comments


เข้าสู่การเดิน(เดินจริงๆ)ทางวันที่สองของทริปโกเรียสุดชิล สโลว์ไลฟ์มากเพราะเดินซะส่วนใหญ่เลยช้าไปหมด
วันที่สองนี่ก็ไม่ได้แพลนอะไรมากค่ะ แค่เดินทางไปสถานที่สุดtouristที่สุดของการมาเยือนโซล นั่นก็คือ Bukchon Hanok Village หรือ หมู่บ้านบุคชอน ที่ทัวร์ไทยชอบไปลงมากมาก แต่เราไม่เคยไปมาก่อน...

เช้ามาก็เดินจากเกสเฮ้าส์ไปที่รถไฟใต้ดินเพื่อจะนั่งไปลงสถานี Anguk Station เพราะสถานีนั้นจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทัวร์บ้านเกาหลีของเรา
คือไม่รู้ว่าเพราะเช้าเกินไปเลยเบลอหรืออะไร เราสามสาว(ตัวเรา พี่สาว และเพื่อนพี่สาว)ก็ซื้อตั๋วเสร็จสรรพ ซื้อเสร็จก็เห้ยระหว่างเดินลงไปที่ชานชาลารถไฟมันมาพอดี นี่ก็รีบวิ่งกันเพราะไม่งั้นต้องรออีกขบวนหันไปมองว่าสายนี้มันไปด้านทีเราต้องการใช่ไหม ก็เออๆใช่ๆ วิ่งเข้าไปๆ ซักพักผ่านไปสองสถานีอยู่ๆรถไฟฟ้าใต้ดินมืดๆเปลี่ยนจากมืดๆเป็น...สว่างค่ะ งงกันไปดิรถไฟใต้ดินมันจะสว่างได้ยังไง คือที่เกาหลีรถไฟมันขึ้นบนได้นะ มันจะมีช่วงนึงของสายที่จะขึ้นเพราะว่าต้องข้ามแม่น้ำฮัน แต่...การที่เรานั่งแล้วมันสว่างนี่บอกพวกเราได้อย่างนึงคือ...เรานั่งมาผิดด้านว่ะ!
พอรู้ตัวว่ามาผิดด้านข้ามแม่น้ำเรียบร้อย ก็เดินข้ามชานชาลากลับไปด้านเดิมค่ะ ไม่งั้นไม่ถึงกันแน่หมู่บ้านเนี่ย

พอขึ้นมาจากสถานีเดินมาอีกหน่อย(เดินตามคนอื่นมาเรื่อยเพราะพวกนี้ก็ไม่รู้ทาง แผนที่ไม่ค่อยช่วยอะไร) มาเจอร้านกาแฟร้านนี้ ร้านสวยมากไม้สวยมาก เราเลี้ยวขวาเข้าซอยข้างร้านกาแฟค่ะ
เดินตามแผนที่แนะนำ(หยิบมาจากที่สถานี)8สถานที่หรือมุมหรือจุดที่เป็นไฮไลท์ของBukchonค่ะ เดินมาก็จะเจอสามแยกนะตรงนั้นเป็น 1st spot...ซึ่งตอนผ่านคือไม่รู้เลยเพราะมันแบบมุมจริงๆ มุมหลังคาจากวังหรืออะไรซักอย่างไม่รู้ชื่อเรียก แต่ด้วยความที่อุตส่าห์เดินมาแล้ว ก็เลยต้องเดินมาดูหน้าทางเข้าวังซักหน่อย ก่อนถึงเจอต้ำแปะก๊วยก่อน กำลังเริ่มๆเปลียนเป็นสีเหลือง ถ้าช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะสีเหลืองสวยมากกกก ภาษาญี่ปุ่นจะเรียกว่าต้นอิโจ (ดูจากโคนัน ใครอ่านจะรู้เลยว่าจากตอนไหนในเรื่อง)

มาถึงด้านทางเข้าของวังแล้ว ชอบหลังคาประตูทางเข้าวังมาก ลายสวยงามตามรูปถ่าย 
นี่ถ่ายแต่ด้านหน้านะ ไม่ได้เข้า งบเที่ยวเรามีแค่สำหรับการกิน(ฮาาาา)ที่เหลือก็เดินชมที่ฟรีและรอบนอกเอาซะ (ผิด!)
เนื่องจากบุคชอนเป็นฟากหมู่บ้านเกาหลีสไตล์เก่า พอมองไปรอบๆหรือเดินเที่ยวไปมาก็จะเห็นคนใส่ชุดฮันบกมาถ่ายรูปเยอะแยะ สาวๆสี่ห้าคนนี่ก็ด้วย น่าจะนักเรียนม.ปลายที่นัดกันมาถ่ายรูปนะ ชุดสวย สีสดใสกันดีมาก

พอถ่ายด้านหน้าวังพอใจแล้วก็ได้เวลาเดินต่อค่ะ อากาศ...จากเมื่อวานที่ครึมๆวันนี้อากาศร้อนแดดฟากหน้ามาก(แต่ยังไม่เท่าไทย) ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้สองอาทิตย์เพื่อนบอกมันหนาวมากนะแก แกควรเอาเสื้อกันหนาวมา...นี่หนาวมากสินะ

กลับเข้าการเดินของเราต่อ 
จากการที่พลาดจดที่หนึ่งเพราะไม่รู้จะหามุมถ่ายยังไงดี เราก็เดินตามแผนที่(อีกเช่นเคย)ไปหาจุุดที่สองค่ะ เดิน เดิน เดิน เดิน ตรงกันไปเรื่อยๆจากกำแพงวัง (อันนีกำแพงบ้านคนไม่ใช่วัง)
แล้วก็มาถึงจุดที่2! Bukchon Village 2nd Spot! 
พอถึงจุดที่สองปุ๊ป เราสามคนก็รับรู้ถึงความจริงที่ว่า...มันเป็นจุดจริงๆ จุดถ่ายรูปที่ถ้าไม่เอารูปในหนังสือแผนที่มาเทียบ เราจะไม่มีทางหาอีจุดนี่เจอเลย! พอเปิดกระทู้พันทิปดู...เราก็ได้รับรู้ว่า ไม่มีใครที่ไหนมันไปครบ 8 จุด ตามที่มันมีในแผนที่หรอก ที่ๆเห็นชัดๆจุดเด่นๆมันมีแค่ที่ที่ 6 กับ 7 เท่านั้นแหละ

หลุดจากจุดที่สอง เราก็เดินกันต่อไปเรื่อยๆเพื่อไปหาจุดที่ใครๆก็ไปกันค่ะ รอบข้างร้านค้าก็มีเรื่อยๆ มีโรงเรียนด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นที่พักอาศัย ห้ามเสียงดัง มีป้ายบอกอยูู่เรื่อยๆตลอดทาง
แถมจุดที่สามค่ะ มันเป็นจุดที่ต้องเดินผ่านพอดี เป็นมุมตรงซอยเล็กๆที่หน้าซอยจะมีStudioชุดฮันกงไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่อยากเช่าชุดใส่ถ่ายเดินไปเดินมา แถบนี้้มีสตูดิโอให้เช่าชุดอยู่สองสามร้าน ต้องเดินหาดู

เดินหามุมกันต่อ
ในที่สุดก็ถึงจุดที่ 6 ที่ใครไปก็ต้องถ่ายรูป อิอิ หน้าไม่เหนื่อยเลยเนอะ (พี่เปิดมาเจอนี่ต้องโดนตบแน่ๆ แต่อย่าไปกลัวมันค่ะ) 

ด้วยความที่ขี้เกียจเดินหาต่อแล้ว(จริงๆหลงและหิวมาก) ก็เดินมั่วลงบันไดมาเขาด้านบนลงมาถนนด้านล่าง เดินตามทางมั่วมาเรื่อยก็ออกมาเจอถนน Samcheong-ro 

 สองข้างทางถนนSamcheong-ro จะมีร้านค้าเยอะแยะ ร้านอาหาร คาเฟ่ อะไรแบบนี้ ต้นไม้สองข้างทาง

อาหารกลางวันเราก็มาเข้าร้านนี้ค่ะ แต่จำชื่อร้านไม่ได้ง่ะ (นี่ไม่รู้อะไรซักอย่าง เปิดเดินตามguidebookที่หยิบที่สถานีเอา) สั่งมาสามอย่าง...ตัวจะแตก เยอะมาก หมี่เย็น หมูต้มห่อผัก แล้วก็ พิซซ่าเกาหลี อร่อยหมด แอบแพงนิดหน่อยแต่ให้เยอะมากนะคุ้มราคาอยู่

กินเสร็จก็ออกมาเดินไปเดินมาต่อ

แวะร้านรองเท้า...และประเด็นของรูปไม่ใช่รองเท้าค่ะ 
ประเด็นมันอยู่ที่ตำแหน่งพรีเซนเตอร์สาวเอเชียคนแรกของ Keds 
จองซููจอง ไอเลิฟยููววว


แล้วก็เดินเลี้ยวไปซอยลัดที่จะไปอินซาดงได้
แวะEtudeซักหน่อย...เครื่องสำอางก็ไม่สนอีกเพราะติ่งพรีเซนเตอร์
จองซูจองผู้เกลียดสีชมพูแต่...เป็นพรีเซนเตอร์เครื่องสำอางสีชมพู จริงๆนางคงกรี้ดในใจตลอดเวลาการถ่ายโฆษณา

Churrosที่บอกไปในentryที่แล้ว...เจอร้านนี้ระหว่างเดินไปเรื่อยๆ
สรุปแล้วคนละร้านกับตรงฮงแด ร้านนี้ชื่อ Street Churros ยืนรอเอาและทอดกันสดๆเลย อร่อยมาก

มาถึงInsadong อินซาดงแล้ววว

มานั่งรอเพื่อนที่ O'Sulloc Teahouse ที่หน้าตึกซัมซีกิล SSamziegil 
โรลชาเขียว กับ ไอติมชาเขียว อร่อยแบบมากมาก เคยไปกินที่เชจูแล้วรอบนึง คราวนี้ไปเลยต้องรีบหากิน มีสาขาเยอะอยูู่นะคะในโซลอ่ะ ลองเปิดแผนที่หาดู ตรงSamcheog-roที่เดินก่อนหน้าก็มี ที่เมียงดงก็มี

รอเพื่อนนานมาก...ออกมาเดินเล่นที่ตึกก่อน มาตึกนี้รอบที่เท่าไหร่แล้วกไม่รู้ ร้านขายของเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยจากสามปีที่แล้ว 

เพื่อนมาเจอแล้วก็เดิน(เดินอีกแล้ววว)กันมาเรื่อยๆถึงชองเกชอน
เพื่อนแบบตกใจว่า นี่พวกแกจะเดินจริงๆหรอ จากอินซาดงมาชองเกชอน จริงๆก็ไม่ได้ไกลมากนะเพราะเดินไปเรื่อยๆมันก็ถึง ตอนแรกกะจะเดินไปเมียงดงอีก...เพื่อนรีบบอกว่าเดี๋ยวเรียกรถแท็กซี่ให้ ชั้นไม่มีทางเดินไปกับพวกแกแน่ (ฮาาาาาา)

อาหารเย็นที่เปิดรีวิวในแอปของคนเกาหลีดู...ซึ่ง เราก็ไม่รู้อีกว่าชื่อร้านอะไร 
แต่! เราเปิดgoogleดูเพื่อมาบอกต่อในบล็อกนี่เลย 
ร้านชื่อ Myeongdong Kyoja (명동교자)
ในtripadvisorให้คะแนน 4 ดาว ได้อันดับ6จากร้านอาหารในโซลทั้งหมด อร่อยดีงาม แต่...ใหญ่มาก สั่งมาแบ่งสองคนชาม กับ dumpling อีกหนึ่งชุด ใครไปเราแนะนำให้เปิดแผ่นที่(อะเกน)เดินหาร้านนี้ค่ะ แต่อาจหายากนิดนึงมั้ง เพื่อนเราเป็นคนเกาหลียังต้องถามทางคนแถวนั้นเลย 

จบทริปที่รูปอาหาร...เป็นจุดประสงค์หลักของทริปนี้จริงๆ

ลิงค์แนะนำwalking routeสำหรับ8มุมที่Bukchon Villageเผื่อใครอยากลองของให้ครบ8จุดค่ะ
>> Bukchon 8 Views
ส่วนอันนี้ของร้านMyeongdong Kyoja เผื่อใครอยากไปลองกิน
>> Myeongdong Kyoja Tripadvisor หรือ Myeodong Kyoja

- THANK YOU -





0 ความคิดเห็น:

[Travel Diary] Finally, Seoul #1 | ทริปเดินวันแรก ฮงแด อีฮวา ฮานึล

03:13 Unknown 0 Comments



안녕 มินนะซังงงง
หลังจากที่หมกไว้เกือบครึ่งปี...ได้เวลาลงทริปโซลที่ไปมาตั้งแต่เดือน10ปีที่แล้วแล้วค่าาา
นอกจากทริปนั้นจะเป็นทริปที่คิดน้อยที่สุดแล้วยังเป็นทริปที่ลงรูปช้าที่สุดด้วย
ไปประมาณห้าวันหลังจากที่ไม่ไปมาสามปี รูปก็...เหมือนจะเยอะแต่ก็ไม่ค่อยเยอะมากเท่าที่เคยถ่ายค่ะ
แต่อยากจะมาเอามาเก็บรวบรวมให้ดูดีดีในบล็อกซะหน่อย

มาเริ่มกันที่วันแรกดีกว่า :D

พอถึงโซลก็นั่งรถไฟเข้าเมืองตรงไปฮงแด เพราะพี่จองเกสเฮาส์ไว้ที่นั่น ถึงเช้าแบบมากมาก เงียบอย่างกะเมืองร้างใครก็ยังไม่ตื่น แต่ก็พอเข้าใจเพราะแถวนี้คนเยอะเฉพาะช่วงมืดๆ คนมานั่งกับเต็มสวนสาธารณะเลยเครื่องดื่มกับแกล้มพร้อม!

เกสเฮ้าส์แรกที่พักคือ Gamja Guest House ค่ะ
ไม่แน่ใจว่าเจ้าของคือคนไทยเลยหรือว่าพี่เค้าเป็นแค่สตาฟของทางเกสเฮ้าส์ ใครจะหาเกสเฮ้าส์แถวฮงแดเราแนะนำที่นี่นะคะ คือมันไม่ได้อยู่ตรงฟากมหาลัยขนาดนั้นแต่ก็ไม่ไกลมากค่ะ เดินได้อ่ะ แล้วฟากนี้คนก็ไม่เยอะแยะมากมายด้วย ตอนกลางคืนแอบเงียบไปหน่อยแค่เงียบในเชิงที่พักอาศัยอ่ะไม่น่ากลัว ของกินที่เกสเฮ้าส์ก็มีให้นะคะ เป็นขนมปังกับแยม(อันนี้ฟรีเลย) ส่วนใครจะเอาอะไรมาทำที่ครัวก็ได้ไม่ว่ากันนะแต่ก็ต้องเก็บล้างให้ด้วยค่ะ

หลังจากจัดการเก็บกระเป๋าล้างหน้าล้างตาหาอะไรลงท้องแล้วเล็กน้อยก็ได้เวลาออกเดินไปเรื่อยๆแบบไม่รู้เรื่องราวจุดหมายเท่าไหร่ (ฮาาา) ได้แผนที่มาจากพี่สตาฟเกสเฮ้าส์ด้วยค่ะ

ข้ามถนนไปฟากมหาลัยฮงแดกันเลยยย

นี่ก็เป็นงานอาร์ตกลางลานอะไรซักอย่าง เอาจริงนี่ไปโดยที่ไม่รู้ว่าอะไรเรียกว่าอะไรเลย -.- ทางเดินข้างบนด้านหลังฝากำแพงนี่มีร้าน Churros ร้านนึงอร่อยมากค่ะ ตอนแรกเราจะไปซื้อ พอเดินไปถึงหน้าร้าน...ยังไม่เปิดซะงั้น มาเช้าไปอีกกก ก็อดกินกันไป (นี่รู้ว่าอร่อยเพราะว่าไปกินร้านนี้ที่อีกสาขานึง)

ตรงถนนหลัก(มั้ง)ข้างทางก็มีร้านอาหารเต็มไปหมด...แต่ก็อีกเช่นเคย ทุกร้านเปิดสายมากหรืออาจจะเปิดเย็นไปเลย ช่วงเวลานั้นคนก็จะเยอะมากมากมากมาก นอกจากร้านอาหารก็มีร้านค้าขายของจุ๊กจิ๊กอะไรพวกนี้ด้วยค่ะ

พอเดินเล่นไปซักพัก(จริงๆหาร้านอาหารกินข้าวกลางวัน) เราก็มาจบที่ร้านหมูย่างข้างๆกับTrick Eye Museum ค่ะ ไปแบบลูกค้ารายที่สองของร้าน ร้านเพิ่งเปิดเลยแบบliterallyเพิ่งเปิดได้ไม่กี่วันเพราะข้างหน้าร้านยังมีพวกดอกไม้ยินดีอะไรอย่างนี้อยู่เลย
หมูย่างกันตั้งแต่หัววันกันเลยทีเดียว...คือไม่รุ้จะกินอะไรแล้วง่ะ ร้านเพิ่งเปิดอะไรก็ยังไม่เสร็จเลยต้องสั่งหมูมากินก่อน พนักงานพยายามช่วยมากเพราะพวกนี่ก็ไม่เป็นภาษาเกาหลีเค้าก็ไม่ค่อยได้ภาษาอังกฤษ งงกันไปเล็กน้อยแต่ไม่แย่มาก พนักงานใจดีให้จานเส้นๆนี่มาด้วยเป็นของแถม อร่อย~


กินเสร็จก็เดินมั่วกันต่อ รอบนี้ไปมั่วที่มหาลัยอื่นบ้าง ไปlandmarkที่ใครๆก็ไป(แต่เมื่อสามปีที่แล้วไม่มีใครไปนะ มันเพิ่งมาบูมช่วงปีที่ไม่ได้ไปนั่นแหละ) 
Ewha Womans University ~
มีเพื่อนเรียนอยู่ที่นี่ด้วย พอคุยตอนเย็นวันนี้ก็โดนด่ากันไปมาจะมาทำไมไม่บอก...แถมกับการโดนเฉ่งกลับมาว่าอย่าทำตัวเป็นTourist คือใจเย็นนะแก เพื่อนแกมาหลายรอบแต่เพื่อนแกก็ยังเป็นtouristไง
ระหว่างทางเดินไปมหาลัยก็มีร้านโน่นนี่เต็มไปหมดเช่นเดียวกับฮงแด แต่ที่นี่ตอนที่ไปคนเยอะกว่ามาก ร้านเสื้อผ้า ร้านอาหาร เยอะค่ะ ใครขาชอปปิ้งต้องชอบมากเพราะของให้ซื้อเยอะอยู่
Hanwha Dating Stairways 
เหมือนที่นั่งชิวก่อนเดินไปมหาลัยค่ะ ก็มีคนมานั่งกินโน่นนี่บ้าง นั่งเล่นนั่งคุยกันไป
อันนี้มากี่ครั้งก็ไม่เคยกิน พี่เลยซื้อให้ลอง แป้งหวานไปอีก ไข่ฟองนึงเต็มๆ สรุปก็...เหมือนจะอร่อยดี
เนินเดินลงไปที่มหาลัย...ปกติมหาลัยนี่ทางไปจะเป็นเขาๆนะ แต่ที่นี่มันเป็นทางลาดลงไปก่อน 
POPEYES Louisiana Kitchen...ที่ถ่ายมาไม่ใช่ไร คืออยากกิน ไม่ได้กินนานมาก แต่ก่อนมันมีขายที่ไทยเดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เสียใจมาก มันอร่อยมาก ใครเจอที่ไหนพุ่งตัวเข้าไปกินเลยค่ะ

ฉลองการเป็นtouristที่ดีค่ะถ่ายด้านในมหาลัยมา...สองรูป แต่ได้ฉากตึกของEwhaมาด้วย คือเอาจริงมันก็สวยดี ถ้าเรียนอยู่นี่ก็คงชอบเดินไปเดินมา แต่...มันขนาดต้องเป็นที่ๆใครก็ต้องมาไหม เราว่าไม่ แต่มหาลัยน่าเรียนมาก ถึงมากที่สุด ใหญ่มาก
พวกshopping areaเราเดินไปเดินมาดูไปเรื่อยแต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะเราว่ามันก็ไม่มีอะไรน่าตื่นตานะ มันจะตื่นตาตอนได้ซื้อแหละค่ะ ถ้าใครจะมาก็มาดูเอาเลยยย ร้านเครื่องสำอางเยอะมาก พวกเสื้อผ้าราคาก็โอเคอยู่ มีเยอะจุกจิก ต้องมาดูเอง

พอเดินรอบEwhaแล้ว ที่ต่อไปคือ Haneul Park ที่อยู่แถว World Cup Stadium ค่ะ (ลงที่สถานีนี้เนี่ยแหละ เดินต่อไปอีกซักพัก...ใหญ่ๆ) นั่งใต้ดินมาลงที่ World Cup Stadium Stationแล้วก็เดินซ้ายมาเรื่อยๆผ่านสเตเดี่ยม เจอถนนใหญ่ ข้ามฟากแล้วเดินไปทางขวา ตรงๆๆๆๆ ก็จะเจอHaneul Parkค่ะ เค้ามีแบบซื้อตั๋วนั่งรถไฟฟ้า(น่าจะซื้อนะ ไม่น่าจะฟรีมั้งแต่ก็ไม่แน่ใจ)ขึ้นไปที่สวนด้วยมันเป็นสวนบนเขาอ่ะ ส่วนใครไม่นั่งรถก็...ฟิตๆกันไปค่ะ เดินขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ไม่เหนื่อยค่ะ...ไม่เหนื่อยเลยจริงๆ (แต่หอบไปเลอออออ หายใจไม่ทันงี้)
พอถึงด้านบนก็อยากจะชื่นใจซะหน่อยวิวสวย...แต่หมอกลงหนักมาก สรุปไม่เห็นวิว -.- ถึงด้านบนก็เดินต่อไปอีกหน่อย ตามคนไปโลดเพราะใครๆก็มาที่นี่ แปปนึงก็ถึงทุ่งดอกหญ้า

ก่อนไปถ่ายดอกหญ้าเราขอหยุดที่มุมคอสมอสก่อนค่ะ เยอะพอสมควร แต่คนก็เยอะพอกัน 

ดอกหญ้ามาแล้วววว
จริงๆที่นี่มีงานเปิดไฟสีๆด้วย แบบฉายสีเล่นกับดอกหญ้า แต่มันหมดก่อนหน้าเราไปวันนึง แอบเสียดาย
เราไม่ได้มุดเข้าไปถ่ายรูปในดงดอกหญ้าแบบคนอื่นนะคะเพราะมันมีไม้กั้นเชือกกั้น บางคนที่ได้รูปเชิงนั้นมาส่วนนึงอาจจะแบบแอบเข้าไปอ่ะ(ทั้งต่างชาติทั้งคนเกาหลีเองด้วย ทำกันเยอะมาก) แต่เราว่าเค้ากั้นไว้ไม่ให้เข้าเราก็ไม่ควรจะเข้าไปเนอะ ดูด้านนอกมันก็สวยดีแล้วอ่ะ
รูปมีไม่เยอะอีกเช่นเคยเพราะถ่ายไปตัวแดงก็กระพริบไป แบตจะหมด!!! 

กลับไปชาร์ตแบตที่ห้องพักมาแปปนึงก่อนออกมาหาอะไรกิน ของกินก็เดินหาแถวฮงแดที่เดิมเมื่อเช้าค่ะ
ตอนแรกจะไปกินร้านนึงที่พี่ที่เกสเฮ้าส์แนะนำ ร้านดังคนเยอะมาก แต่...สรุปไม่ได้กินเพราะที่้ร้านขายแต่ไส้หมูกับเครื่องในหมู นี่ก็ไม่กินเครื่องในเลยหาร้านอื่นกัน

มาจบที่ร้านนึงในตรอกแถวๆโซนร้านค้าของฮงแดนั้นแหละค่ะ วนสองสามรอบไม่รู้จะเข้าร้านไหนก็เลยเอาร้านนี้เพราะอาจุมม่าน่ารักดี
สั่งSamgyeopsal กับ ไส้หมู พี่อยากลองไส้เลยลองสั่งมาด้วย ตอนแรกก็จะช่วยโฆษณาแต่จำชื่อร้านไม่ได้ ต้องขอโทษอาจุมม่าด้วยค่ะ


จ่ายค่าอาหารเย็นเป็นแบงค์พันวอน...อาจุมม่ามองหน้าแบบอีพวกนี้ตั้งใจแกล้งหรืออะไร คือหนูไม่ได้ตั้งใจแกล้งค่ะป้า แต่หนูแรกเป็นแบงค์พันเพราะมันได้ราคาถูกกว่าแบงค์ใหญ่อ่ะ เยอะมากด้วยไง พกจ่ายอะไรที่ก็เป็นปึกเลย อันตรายสุดๆ

ก่อนกลับก็เดินผ่านถนนเดิมเมื่อเช้า เวลาดึกๆคนจะเยอะมาก เดินไปเดินมาเต็มไปหมด มีคนมาเล่นดนตรีเปิดหมวก ร้องเพราะดีแต่ไม่ไดถ่ายวีดีโอมา 

จบวันค่ะเข้านอน 

Camera: Fuji Film X-A2
Application: VSCO Camera
Location: Seoul, South Korea
Date: 19/10/2015
- THANK YOU -

0 ความคิดเห็น: